Open on Mon – Fri 09:00-18:00

facebook technicalbiomed
วิธีลดไขมัน

ออกกำลังกายมาตั้งนาน ลดไขมัน ไม่ได้สักที!

วิธีลดไขมัน

“ออกกำลังกายมาตั้งนาน
ลดไขมัน ไม่ได้สักที”

จากอดีตจนถึงปัจจุบัน การดูแลรูปร่างให้สวยและดูดีนั้น ถือเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน ที่รักและหลงไหลในการดูแลรูปร่าง เราปฎิเสธไม่ได้ว่า แนวคิดเรื่องของการลดไขมันเพื่อรูปร่างที่สวยแบบพิมพ์นิยม หรือ บิวตี้สแตนดาร์ด (Beauty standard) นั้น ถูกปลูกฝังมาอย่างเนิ่นนาน แม้ในปัจจุบันคำนิยามของคำว่า “Real Size Beauty” กำลังถูกพูดถึงเป็นอย่างมากก็ตาม เพื่อเปิดมุมมองอีกด้านของการภูมิใจในตัวตนและความแตกต่างของรูปร่างตนเอง ทำให้ในสังคมไทยมีมุมมองเรื่องของความสวยในรูปร่างที่หลากหลายออกไป จึงไม่แปลก ที่ใครหลาย ๆ คน ยังต้องการลดไขมันเพื่อให้ได้รูปร่างที่สวยและดูดีอยู่เสมอ ทั้งยังสร้างความมั่นใจให้กับตนเองอีกด้วย 

 

          แน่นอน “การลดไขมัน” ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน ต้องอาศัยความพยายาม ความตั้งใจ และการมีวินัยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายอย่างหนัก และการควบคุมอาหารอยู่ตลอดเวลาเพื่อลดไขมัน บางคนถึงกับท้อและสิ้นหวังในการลดไขมันอย่างมาก เพื่อแลกมากับรูปร่างที่ดูดี ไร้ไขมัน จึงเกิดเป็นคำถามว่า “ออกกำลังกายมาตั้งนาน ทำไมลดไขมันไม่ได้สักที” 

หากเราจะพูดถึงประโยชน์ของ “ไขมัน” ไม่ว่าจะใช้เป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย เพื่อใช้ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือช่วยดูดซึมและสะสมวิตามินได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงรสชาติของอาหารที่มีความนุ่มลิ้น ถูกปากสำหรับหลาย ๆ คน  จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสะสมของไขมันที่มากเกินกว่าความต้องการของร่างกาย

 

เกิดเป็นไขมันที่สะสมในชั้นใต้ผิวหนัง (Subcutaneous) นอกจากจะทำให้รูปร่างอ้วนและลงพุงแล้ว ยังก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจ และคอเรสเตอรอลในเลือดสูง โดยการพิจารณาว่าบุคคลใดมีรูปร่างที่อ้วนหรือผอมไป นั้นต้องพิจารณาจาก ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ซึ่งเป็นมาตรการที่ใช้ประเมินภาวะอ้วนและผอมในผู้ใหญ่ ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป มีค่าเท่ากับ น้ำหนัก (หน่วยเป็นกิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง (หน่วยเป็นเมตร) ยกกำลังสอง บุคคลที่มีดัชนีมวลกายเกิน 30 กิโลกรัมต่อตารางเมตร สื่อถึงภาวะน้ำหนักเกินที่ส่งผลกระทบถึงสุขภาพ

เมื่อร่างกายมีไขมันส่วนเกินเพิ่มขึ้น เซลล์ไขมันก็จะมีจำนวนมากขึ้นและขนาดใหญ่ขึ้นตามมา เกิดการรวมตัวอย่างหนาแน่นตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นขา หรือท้องแขน เป็นต้น ทำให้รูปร่างเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจนทำให้หลาย ๆ คนต้องกลับมาตั้งคำถามว่า จะมีวิธีไหนบ้างที่ช่วยแก้ปัญหาหรือเป็นทางเลือกสำหรับ “การลดไขมัน” ที่รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ  

ดังนั้น หากรู้สึกว่าเรามีไขมันสะสมเกินความจำเป็นของร่างกาย และอยากดูแลรูปร่างของตนเองให้ดูดี มีหุ่นที่สวย สุขภาพดีอยู่เสมอ ต้องเริ่มจากเคล็ดไม่ลับ 9+1 ข้อ

ดังต่อไปนี้

วิธีลดไขมัน
  1. หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม ดื่มได้เฉพาะน้ำอัดลมที่ใส่น้ำตาลเทียม 

เช่น เป็ปซี่แม็กซ์ ไดเอทโค้ก 

 

  1. หลีกเลี่ยงน้ำหวาน โอเลี้ยง นมเปรี้ยว และนมที่ปรุงแต่งรสต่าง ๆ ในส่วนของการดื่มชาหรือกาแฟ ไม่ควรใส่น้ำตาล ครีมเทียม หรือนมข้นหวาน ให้ใส่นมพร่องมันเนย หรือน้ำตาลเทียมแทน รวมไปถึงหากต้องการดื่มนม ควรเลือกนมที่มีไขมันต่ำหรือพร่องมันเนย 

 

  1. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์ ไวน์ หรือวิสกี้ เนื่องจากมีปริมาณแคลอรี่สูง

 

  1. หลีกเลี่ยงอาหารประเภทผัด และทอดทุกชนิด ถ้าจำเป็นควรเลือกใช้น้ำมันพืช

แนะนำรับประทานอาหารประเภทต้ม, ตุ๋น, นึ่ง, ย่าง, อบ หลีกเลี่ยงอาหารที่มัน ๆ เช่น แกงกะทิ 

 

  1. หลีกเลี่ยงรับประทานประเภทข้าวขัดขาว ข้าวสวย ควรทานข้าวไม่ขัดขาว เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสีนิล เป็นต้น และงดอาหารประเภทแป้ง เช่น ขนมปัง หรือก๋วยเตี๋ยวในปริมาณที่มากเกินไป

 

  1. ควรรับประทานผัก ผลไม้ และดื่มน้ำเปล่า ในปริมาณมากขึ้นในแต่ละมื้อ เช่น ฝรั่ง ส้ม  กล้วย  แอปเปิ้ล ไม่ควรรับประทานผลไม้ที่มีรสหวานจัด เช่น ทุเรียน ลำไย ผลไม้เชื่อม และผลไม้แห้งทุกชนิด

 

  1. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง หรือมีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น เนื้อมะพร้าว ลดการกินไขมันจากสัตว์ทุกชนิด เนื้อสัตว์ที่ติดมัน หมูสามชั้น ไส้กรอก รวมไปถึงเครื่องใน ไข่แดง ไข่ปลา และอาหารทะเลบางชนิด เช่น กุ้ง หอย ปู ปลาหมึก ควรเน้นรับประทานเป็นปลา หรือเนื้อหมู, ไก่ หรือวัวที่ไม่ติดมัน

 

  1. งดรับประทานขนมกินเล่น อาหารที่ใส่กะทิหรือน้ำตาลมาก ๆ เช่น ขนมฝอยทองทองหยิบ  ทองหยอด ขนมเค้ก ช็อกโกแล็ต ไอศกรีม คุกกี้ แครกเกอร์ สังขยา เป็นต้น รวมทั้งการทานของจุบจิบระหว่างวัน

 

  1. ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ระยะเวลาติดต่อกัน (วันละ 30-40 นาที) 

อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง โดยเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น   และหายใจเร็วขึ้น (Aerobic exercise) เช่น การวิ่ง เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ

เล่นเทนนิส แบดมินตัน หรือเตะฟุตบอล ที่สำคัญการที่จะลดไขมันลงได้ พลังงานที่ใช้ต้องมากกว่าพลังงานที่ได้รับ หากไม่สามารถควบคุมปริมาณอาหารได้ ก็ต้องออกกำลังกายให้มากขึ้น แต่หากออกกำลังกายได้น้อย จึงจำเป็นต้องควบคุมพลังงานที่ได้รับจากอาหาร ก็จะสามารถควบคุมเรื่องของปริมาณไขมันส่วนเกินได้

นอกจาก 9 วิธีการลดไขมัน ที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ก็ยังมีอีก 1 ทางเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ในยุคแห่งความเร่งรีบนี้ได้อย่างดีเยี่ยม นั่นคือวิธีลดไขมันด้วย SculpSure – เลเซอร์กำจัดไขมันถาวร ภายใน 25 นาที

 

เทคโนโลยี SculpSure เป็นที่นิยมอย่างมากในวงการสุขภาพและความงาม ตัวเครื่องเป็น Adsvanced Laser 1060 นาโนเมตร สามารถปล่อยพลังงานความร้อน 42-47C ทำให้เซลล์ไขมันเกิดภาวะช็อกแล้วตายไป และร่างกายจะค่อย ๆ กำจัดไขมันออกตามกระบวนการธรรมชาติของร่างกาย ผิวบริเวณที่ทำจะไม่มีรอยหรือบาดเจ็บใด ๆ สัดส่วนบริเวณนั้นก็จะ Fit & Firm ขึ้นอีกด้วย ทั้งยังเป็นทรีทเมนต์ที่รวดเร็ว ใช้เวลาสั้นเพียง 25 นาที คนไข้ไม่จำเป็นต้องฟักฟื้น หลังทำสามารถกลับบ้านหรือไปทำงานได้ตามปกติ 

เรียกได้ว่า SculpSure เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยตอบโจทย์สำหรับคนรักในการดูแลรูปร่างและต้องการลดไขมันส่วนเกินที่กำจัดยากได้อย่างลงตัว

IMCAS Asia 2022
News & Events
Technicalbiomed

IMCAS Asia 2022

ขอเชิญเข้าร่วมงาน“IMCAS Asia 2022”วันที่ 29-30 กันยายน,

Read More »
ADAC IAS 2022
News & Events
Technicalbiomed

ADAC IAS 2022

ขอเชิญเข้าร่วมงานประชุมเชิงปฏิบัติการ“ADAC IAS 2022”วัน

Read More »
PDPA Technicalbiomed

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า

บริษัท เอสล่า จำกัด ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้อธิบายแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับโดยตรงจากคุณผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้

  • การกรอกฟอร์ม

  • โทรศัพท์

  • อีเมล

  • ช่องทางโซเซียลมีเดีย

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ เลขประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง เป็นต้น

ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น

ข้อมูลทางเทคนิค เช่น IP address, Cookie ID, ประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (Activity Log) เป็นต้น

ผู้เยาว์

หากคุณมีอายุต่ำกว่า 20 ปีหรือมีข้อจำกัดความสามารถตามกฎหมาย เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เราอาจจำเป็นต้องให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองของคุณให้ความยินยอมหรือที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ หากเราทราบว่ามีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยาว์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง เราจะดำเนินการลบข้อมูลนั้นออกจากเซิร์ฟเวอร์ของเรา

วิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในรูปแบบเอกสารและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

เราเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ดังต่อไปนี้

  • ผู้ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ

การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • เพื่อปรับปรุงสินค้า บริการ หรือประสบการณ์การใช้งาน

  • เพื่อการตลาดและการส่งเสริมการขาย

  • เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะ

ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่คุณเป็นลูกค้าหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับเราหรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้น หากมีกฎหมายกำหนดไว้ เราจะลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของคุณได้ เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คุณมีสิทธิในการดำเนินการดังต่อไปนี้

สิทธิขอถอนความยินยอม (right to withdraw consent) หากคุณได้ให้ความยินยอม เราจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่คุณให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น คุณมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา

 

สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (right to access) คุณมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่อยู่ในความรับผิดชอบของเราและขอให้เราทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่คุณ รวมถึงขอให้เราเปิดเผยว่าเราได้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณมาได้อย่างไร

 

สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (right to data portability) คุณมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในกรณีที่เราได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

 

สิทธิขอคัดค้าน (right to object) คุณมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่คุณสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลหรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์

 

สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (right to erasure/destruction) คุณมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวคุณได้ หากคุณเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือเห็นว่าเราหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อคุณได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

 

สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (right to restriction of processing) คุณมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่เราอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของคุณหรือกรณีอื่นใดที่เราหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่คุณขอให้เราระงับการใช้แทน

 

สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล (right to rectification) คุณมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

 

สิทธิร้องเรียน (right to lodge a complaint) คุณมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากคุณเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 

คุณสามารถใช้สิทธิของคุณในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราตามรายละเอียดท้ายนโยบายนี้ เราจะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่เราได้รับคำขอใช้สิทธิจากคุณ ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่เรากำหนด ทั้งนี้ หากเราปฏิเสธคำขอเราจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้คุณทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น

การโฆษณาและการตลาด

เราอาจส่งข้อมูลหรือจดหมายข่าวไปยังอีเมลของคุณ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอสิ่งที่น่าสนกับคุณ หากคุณไม่ต้องการรับการติดต่อสื่อสารจากเราผ่านทางอีเมลอีกต่อไป คุณสามารถกด “ยกเลิกการติดต่อ” ในลิงก์อีเมลหรือติดต่อมายังอีเมลของเราได้

เทคโนโลยีติดตามตัวบุคคล (Cookies)

เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของคุณให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราใช้คุกกี้ (Cookies)หรือเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน เพื่อพัฒนาการเข้าถึงสินค้าหรือบริการ โฆษณาที่เหมาะสม และติดตามการใช้งานของคุณ เราใช้คุกกี้เพื่อระบุและติดตามผู้ใช้งานเว็บไซต์และการเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา หากคุณไม่ต้องการให้มีคุกกี้ไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณสามารถตั้งค่าบราวเซอร์เพื่อปฏิเสธคุกกี้ก่อนที่จะใช้เว็บไซต์ของเราได้

การรักษาความมั่งคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

เราจะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ตามหลักการ การรักษาความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (availability) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผย นอกจากนี้เราจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (access control)

การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่มีเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเกิดขึ้น เราจะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของคุณ เราจะแจ้งการละเมิดให้คุณทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น

การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว

เราอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้เป็นครั้งคราว โดยคุณสามารถทราบข้อกำหนดและเงื่อนไขนโยบายที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ของเรา

นโยบายนี้แก้ไขล่าสุดและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565

นโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์อื่น

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้สำหรับการเสนอสินค้า บริการ และการใช้งานบนเว็บไซต์สำหรับลูกค้าของเราเท่านั้น หากคุณเข้าชมเว็บไซต์อื่นแม้จะผ่านช่องทางเว็บไซต์ของเรา การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ จะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์นั้น ซึ่งเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

รายละเอียดการติดต่อ

หากคุณต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ รวมถึงการขอใช้สิทธิต่าง ๆ คุณสามารถติดต่อเราหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราได้ ดังนี้

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท เอสล่า จำกัด

บริษัท เอสล่า จำกัด (สำนักงานใหญ่) โครงการพันนา เอกมัย-รามอินทรา (เซ็นทรัล อีสต์วิลล์) เลขที่ 106 ซอยนาคนิวาส 6 ถนนนาคนิวาส ลาดพร้าว ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230

อีเมล info@aesla.com

เว็บไซต์ https://www.aesla.com

หมายเลขโทรศัพท์ 092-573-9907

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

แผนกการตลาด

บริษัท เอสล่า จำกัด (สำนักงานใหญ่) โครงการพันนา เอกมัย-รามอินทรา (เซ็นทรัล อีสต์วิลล์) เลขที่ 106 ซอยนาคนิวาส 6 ถนนนาคนิวาส ลาดพร้าว ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230

อีเมล info@aesla.com

หมายเลขโทรศัพท์ 092-573-9907

Venus Legacy

ร่วมปฏิบัติการ “Feel Good Boost หุ่นสวยด้วย “Venus Legacy™”

Venus Legacy
Venus Legacy
Venus Legacy

ร่วมปฏิบัติการ Feel Good Boost หุ่นสวยด้วย Venus Legacy™"

เพราะ Work From Home มายาวนาน ทานฟาสฟู๊ด ขนมหวานจนหุ่นหนา ขาเบียด เซลลูไลท์ถามหา ได้เวลาปลดล็อค มา TRIM & TITE ฟื้นหุ่น ด้วย Venus Legacy นวัตกรรม RF4D ระดับ world class จากสหรัฐอเมริกา ด้วยเทคโนโลยี (MP)2 ที่ผสานพลังงานคลื่นวิทยุชนิด Multipolar RF และ PEMF ในการส่งผ่านพลังงานได้ลงลึกถึงชั้นไขมัน และสะสมอุณหภูมิใต้ชั้นผิวถึง 43-45 °C พร้อมมี Varipulse™ เพิ่มจังหวะการดูดและผลักเพื่อให้พลังงานลงได้ลึกกว่าที่เคยมีมา

 

ระบบ Real-time thermal Feedback ที่สามารถแสดงอุณหภูมิขณะรักษาได้ตลอด 25 นาที ที่ทำการรักษา เพื่อเพิ่มผลลัพธ์และความปลอดภัย สามารถสลายไขมัน ลดปัญหาเซลลูไลท์ ฟื้นฟูและลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ พร้อมยกกระชับสัดส่วนได้ทั่วเรือนร่าง ทั้งช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและระบบต่อมน้ำเหลืองในการขับของเสีย จึงทำให้ผิวเปล่งปลั่งขึ้น ได้ทั้งความสบายผิว พร้อมความปลอดภัย ได้มาตรฐานการรับรองจาก US.FDA และสามารถกลับมาทำซ้ำได้บ่อยครั้ง ตามต้องการ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีบาดแผลใด ๆ

สัมผัสผลลัพธ์และโปรโมชั่นพิเศษด้วยตัวคุณเองได้แล้ววันนี้ที่คลินิกชั้นนำทั่วประเทศไทย

ค้นหาคลินิกชั้นนำที่ให้บริการใกล้คุณ ได้ที่ด้านล่างนี้

Radius: KM
Loading...
HOSPITALS & CLINICS: 0 PRINT

Store Direction

Get Your Directions

LOCATE YOUR GEOPOSITION

IMCAS Asia 2022
News & Events
Technicalbiomed

IMCAS Asia 2022

ขอเชิญเข้าร่วมงาน“IMCAS Asia 2022”วันที่ 29-30 กันยายน,

Read More »
ADAC IAS 2022
News & Events
Technicalbiomed

ADAC IAS 2022

ขอเชิญเข้าร่วมงานประชุมเชิงปฏิบัติการ“ADAC IAS 2022”วัน

Read More »
body-jet® GET OVER คลายล็อค Knock หุ่นวาฬ ด้วยพลังน้ำ

body-jet® GET OVER คลายล็อค Knock หุ่นวาฬด้วยพลังน้ำ

body-jet® GET OVER คลายล็อค Knock หุ่นวาฬ ด้วยพลังน้ำ
ดูดไขมันที่ไหนดี
ดูดไขมันที่ไหนดี
ดูดไขมันที่ไหนดี

body-jet® GET OVER คลายล็อค Knock หุ่นวาฬด้วยพลังน้ำ

work from home นานเกินไป เลยกลายเป็นหุ่นปลาวาฬ! 🐳
body-jet® นวัตกรรมการดูดไขมันด้วยเทคโนโลยีพลังน้ำ water jet-assisted liposuction
ที่เข้าไปแยกชั้นไขมันพร้อมดูดออกในขั้นตอนเดียว

💧 ตอบโจทย์การดูแลรูปร่างในทุกส่วนของร่างกาย ทั้ง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง สะโพก เอว
💧 ดูดไขมันส่วนเกิน พร้อมเติมกลับเข้าไปยังส่วนที่ขาด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
💧 ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องใช้ยาสลบ
💧 ระยะพักฟื้นสั้น และเห็นผลลัพธ์การลดลงของสัดส่วนได้ทันที
body-jet® เพิ่มความมั่นใจ ปรับรูปร่าง สะดวก รวดเร็ว เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ

 

สำหรับหนุ่มสาวที่อยากพิชิตหุ่นวาฬ ด้วยพลังน้ำอันอ่อนโยนจาก body-jet® ภายใต้มาตรฐาน U.S. & THAI FDA

ค้นหาคลินิกชั้นนำที่ให้บริการใกล้คุณ ได้ที่ด้านล่างนี้

Radius: KM
Loading...
HOSPITALS & CLINICS: 0 PRINT

Store Direction

Get Your Directions

LOCATE YOUR GEOPOSITION

IMCAS Asia 2022
News & Events
Technicalbiomed

IMCAS Asia 2022

ขอเชิญเข้าร่วมงาน“IMCAS Asia 2022”วันที่ 29-30 กันยายน,

Read More »
ADAC IAS 2022
News & Events
Technicalbiomed

ADAC IAS 2022

ขอเชิญเข้าร่วมงานประชุมเชิงปฏิบัติการ“ADAC IAS 2022”วัน

Read More »
Venus Viva MD นวัตกรรมรักษาหลุมสิว

Venus Viva MD นวัตกรรม NanoFractional RF เพื่อการรักษาหลุมสิว

Venus Viva MD นวัตกรรมรักษาหลุมสิว

Venus Viva MD
นวัตกรรม NanoFractional RF เพื่อการฟื้นฟูหลุมสิว

หลุมสิวหรือรอยแผลเป็นจากสิว เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบได้กว่า 95% ของผู้มีปัญหาสิว ซึ่งพบได้ทั้งชายและหญิงทั่วโลกตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยผู้ใหญ่ ที่เกิดจากความเสียหายของเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิวจากการอักเสบรุนแรงของสิวประเภทต่างๆ โดยเมื่ออาการของสิวทุเลาลง ร่างกายจะมีกระบวนการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติด้วยการผลิตคอลลาเจนขึ้นมาเพื่อฟื้นฟูให้ผิวกลับสู่สภาวะปกติ แต่เมื่อกระบวนการซ่อมแซมผิวมีความผิดปกติ จะส่งผลให้เกิดปัญหารอยแผลเป็นจากสิวขึ้น ซึ่ง หลุมสิวเป็นผลมาจากการที่ร่างกายมีการผลิตคอลลาเจนที่น้อยจนเกินไป ทำให้ผิวเกิดเป็นหลุมตื้นหรือลึกบนใบหน้า แตกต่างกันออกไป หากในบางคนที่มีปัญหารุนแรง อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและจิตใจ ทำให้เสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันได้

ปัญหาหลุมสิว เป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่คนส่วนใหญ่ เลือกพบแพทย์ผิวหนังเพื่อเข้ารับการรักษามากที่สุด โดยทางเลือกการรักษามีหลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Chemical Peeling , การรับประทานยา, การรักษาด้วย Skin Needing หรือการทำ Subcision ซึ่งเป็นการใช้เข็มขนาดเล็กจิ้มลงไปที่ผิวหนังเพื่อตัดพังผืดใต้หลุมสิวออก จนถึงการผ่าตัดเย็บหลุมสิว และวิธีการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ เช่น IPL , Laser  และนวัตกรรม RF อย่างเช่น Venus Viva MD ที่เป็นหนึ่งใน Gold Standard  ด้านการฟื้นฟูผิว และยังเป็น Ablative Fractional  RF เครื่องแรกที่ให้ผลการรักษาเท่าเทียมกับการใช้แสงเลเซอร์

Venus Viva MD มิติใหม่เพื่อการฟื้นฟูหลุมสิวและผิวอย่างตรงจุด

Venus Viva MD อีกหนึ่งนวัตกรรมของวงการแพทย์ผิวหนังเพื่อการรักษาหลุมสิวและฟื้นฟูผิวหน้า ด้วย FirmFX™ แอพพลิเคเตอร์ ที่มีผสมผสานการทำงานร่วมกันของ 2 เทคโนโลยี ระหว่าง Ablative NanoFractional Radiofrequency โดยปล่อยคลื่นวิทยุแบบหลายขั้ว (Multi-Polar RF) เพื่อส่งผ่านพลังงานความร้อนกว่า 100ºC ลงสู่เนื้อเยื่อผิวอย่างละเอียดแม่นยำและลึกได้สูงสุดถึง 500 ไมครอน ผ่านทางปลาย pin ขนาดเล็ก จำนวน 160 pin  ทำให้ผิวเกิดแผลขนาดเล็กละเอียดสลับกับเนื้อเยื่อผิวที่ดี ส่งผลให้เกิดกระบวนการซ่อมแซมผิว พร้อมกับการแผ่พลังงานความร้อนลงสู่เนื้อเยื่อผิวชั้นลึก ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและการจัดเรียงตัวใหม่ของเส้นใยคอลลาเจนให้ผสานกันอย่างเป็นระเบียบและแข็งแรงขึ้น นำไปสู่กระบวนการฟื้นฟูหลุมสิวชนิดต่างๆ ทั้งตื้นและลึก รวมถึงแก้ปัญหาผิว ให้ผิวกลับมาเรียบเนียน และเต่งตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

พร้อมกับความพิเศษอีกระดับ ด้วยเทคโนโลยี SmartScan ™

อีกหนึ่งความพิเศษของ Venus Viva MD คือ การมีเทคโนโลยี SmartScan™ ที่ควบคุมการปล่อยพลังงานได้หลากหลายรูปแบบ (Random) โดยที่ไม่มีเครื่องใดทำได้มาก่อน พร้อมอัลกอริทึมในการปล่อยพลังงานเฉพาะตัวที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามรอยโรค ทั้งสามารถควบคุมการลงลึกและระดับของพลังงาน เพื่อความปลอดภัยและเพิ่มความสบายผิวให้แก่ผู้รับการรักษาได้อย่างตรงจุด

 

นอกจากนี้ด้วยความที่ขนาดของแผลที่เกิดขึ้นจากการรักษาด้วยเครื่อง Venus Viva MD มีขนาดที่เล็กมาก จึงทำให้บาดแผลหายได้อย่างรวดเร็ว และยังลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง เช่น การเกิด PIH ได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่นๆ ดั่งผลงานวิจัยทางคลินิกของ Hongcharu W, MD และ Gold M, MD ที่ระบุว่า ผลจากการรักษาด้วย Venus Viva MD มีโอกาสเสี่ยงในการเกิด PIH ได้ 18.1% เมื่อเทียบกับการรักษาด้วย CO2 Lasers และ Er:Glass Lasers ที่มีโอกาสเกิด PIH ได้ถึง 81.8% และ 36.4% ตามลำดับ

 

ดังนั้น Venus Viva MD จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อการฟื้นฟูหลุมสิว รวมทั้งปัญหาผิวต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม สามารถใช้ได้ในทุกสภาพผิว ทั้งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์เส้นใยคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด พร้อมทั้งได้รับการรับรองความปลอดภัยด้วยมาตรฐาน US.FDA และ THAI FDA

Reference :

 

IMCAS Asia 2022
News & Events
Technicalbiomed

IMCAS Asia 2022

ขอเชิญเข้าร่วมงาน“IMCAS Asia 2022”วันที่ 29-30 กันยายน,

Read More »
ADAC IAS 2022
News & Events
Technicalbiomed

ADAC IAS 2022

ขอเชิญเข้าร่วมงานประชุมเชิงปฏิบัติการ“ADAC IAS 2022”วัน

Read More »
5 เคล็ดลับโปรโมทคลินิกความงาม

5 เคล็ดลับ ในการโปรโมทบริการของคลินิกความงามให้ดียิ่งขึ้น

5 เคล็ดลับโปรโมทคลินิกความงาม

5 เคล็ดลับ ในการโปรโมทบริการของคลินิกความงามให้ดียิ่งขึ้น

1. โปรโมททรีทเมนท์ผลลัพธ์การรักษา

ผลลัพธ์การรักษานั้น ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าในการเข้ารับบริการต่างๆ ซึ่งสามารถนำมาสู่ยอดขายได้

เคล็ดลับคือ หลังจากโปรโมทไปเเล้ว เก็บบันทึกข้อมูลยอดขาย เพื่อนำเสนอโปรโมชั่นต่อให้กับคนไข้ในอนาคต โดยในปี 2021 นี้ เทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยม คือ การรักษาที่มีประสิทธิภาพ เเต่ระยะเวลาการรักษาเเละพักฟื้นสั้น

2. ให้ความสนใจกับการบอกต่อ ผลลัพธ์การรักษา

ลูกค้าที่ประทับใจในผลการรักษาทรีทเมนท์ในคลินิกความงามนั้น สามารถเปลี่ยนเป็น Ambassadors ของคลินิกของคุณได้อย่างดีเยี่ยม เพียงเเค่สร้างโปรโมชั่นสำหรับคนไข้ที่บอกต่อ เพื่อสร้าง Prospect ใหม่ๆ ให้กับคลินิกของคุณ

3. ประเมินฐานคนไข้ในคลินิก

การประเมินฐานคนไข้ในคลินิกของคุณนั้นสามารถทำให้ คุณสามารถออกเเบบโปรโมชั่น เเละข้อเสนอได้ตรงใจคนไข้มากยิ่งขึ้น

4. สร้างเเบรนด์คลินิกความงามของคุณ

การสร้างเเบรนด์ให้เป็นที่จดจำ เมื่อรวมกับผลการรักษาที่ยอดเยี่ยมนั้น ให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนมากกว่า ซึ่งในปี 2021 นี้ เทรนด์การรับชมวิดิโอ ยังได้รับความนิยมสูงอย่างมาก ทำให้คนไข้สามารถเข้าถึงผลลัพธ์การรักษาในรูปเเบบที่เข้าใจได้ง่ายเเละกระตุ้นภาพจำของเเบรนด์คลินิกความงามของคุณอีกด้วย

5. ให้ความสะดวกสบายกับคนไข้ ในการปรึกษาเเนวทางการรักษา

ปัจจุบันช่องทางออนไลน์นั้น เอื้อประโยชน์ในการให้คำปรึกษาคนไข้ รวมไปถึงการเเจ้งตารางนัดหมายเพื่อเข้ารับการรักษา

ซึ่งจะทำให้เกิด Relationship กับคนไข้ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้คนไข้รู้สึกเหมือนกำลังได้รับคำปรึกษากับทีมผู้เชี่ยวชาญตัวจริง

IMCAS Asia 2022
News & Events
Technicalbiomed

IMCAS Asia 2022

ขอเชิญเข้าร่วมงาน“IMCAS Asia 2022”วันที่ 29-30 กันยายน,

Read More »
ADAC IAS 2022
News & Events
Technicalbiomed

ADAC IAS 2022

ขอเชิญเข้าร่วมงานประชุมเชิงปฏิบัติการ“ADAC IAS 2022”วัน

Read More »
ดูดไขมันที่ไหนดี

รวมคลินิกดูดไขมันด้วย body-jet

เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุค New Normal ที่คนส่วนใหญ่ต้องกักตัวอยู่บ้านเพื่อ Work From Home ทำให้คนบางกลุ่มมีปัญหาน้ำหนักขึ้นจนส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานของตน เช่น อาชีพนางแบบ นายแบบ นักแสดง รวมถึงคนในวงการบันเทิง ด้วยเหตุนี้กระแสเทรนด์ความงามที่มาแรงเป็นอันดับต้นๆ ในยุค New Normal จึงหนีไม่พ้นการดูแลรูปร่างให้เฟิร์ม กระชับ กลับมามีส่วนโค้งส่วนเว้าที่สวยงามดังเดิมค่ะ

 

 

การดูดไขมัน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมของผู้ที่ต้องการมีรูปร่างที่สวยงาม ด้วยความที่สามารถเห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนหลังการทำทันที อีกทั้งใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ได้สัดส่วนที่สวยงามแล้ว ทำให้การดูดไขมันเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วในวงการความสวยความงาม

 

 

แต่ในช่วงที่มีข่าวการเสียชีวิตของผู้ที่เข้ารับการดูดไขมัน ก็ทำให้หลายๆ คนที่ตั้งใจจะดูดไขมัน เกิดความวิตกกังวล และเริ่มมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของการดูดไขมัน รวมทั้งมีคอนเทนต์มากมายใน Social Network ที่มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง ทั้งจริงบ้าง เท็จบ้าง ปะปนกันไปจนคนเริ่มสับสน และในบทความนี้เราจะพาทุกๆ คนมาไขข้อสงสัยให้เข้าใจ และรู้จักกับการดูดไขมันมากขึ้นค่ะ ที่สำคัญเรามีคลินิกดูดไขมันยอดนิยมอันดับต้นๆ ของประเทศไทยมาแนะนำกันด้วยค่ะ

ดูดไขมัน

(จำลองตัวอย่างการดูดไขมันด้วย body-jet)

 

การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นหนึ่งในรูปแบบของศัลยกรรมทางการแพทย์ โดยอาศัยเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อช่วยในการแยกเซลล์ไขมัน และดูดออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นการดูดไขมันส่วนเกินบริเวณใต้ชั้นผิวหนังออกไปได้อย่างเฉพาะจุด เพื่อสัดส่วนที่เล็กลงและสมส่วนยิ่งขึ้น การดูดไขมันในปัจจุบัน ได้พัฒนามาอย่างหลากหลาย โดยเริ่มจากการดูดไขมันแบบดั้งเดิม (Conventional Liposuction) โดยใช้แรงมือ ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เช่น การใช้คลื่นวิทยุ คลื่นอัลตราซาวน์ การใช้เลเซอร์ รวมถึงการใช้พลังน้ำเพื่อช่วยในการสลายไขมันออกจากผังผืดก่อนดูดออกจากร่างกาย ซึ่งมีความอ่อนโยนและยังนำไขมันที่ดูดออกมาแล้วเติมกลับเข้าส่วนอื่นที่ต้องการได้อีกด้วย

คำถามยอดฮิตในช่วงที่ผ่านมา หลังจากมีข่าวเหตุการณ์การเสียชีวิตของผู้ที่ดูดไขมัน ทำให้หลายคนเกิดความสับสน และลังเลถึงความปลอดภัยในนวัตกรรมนี้ ซึ่งตามหลักการแล้ว การดูดไขมันมีความปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดการเสียชีวิต หากทุกขั้นตอนอยู่ภายใต้สถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฏหมาย ห้องผ่าตัด และอุปกรณ์ต่างๆ สะอาด ปลอดเชื้อ รวมถึงอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมันโดยเฉพาะ อีกทั้งด้วยการพัฒนาทางด้านการแพทย์ทำให้ การดูดไขมันในปัจจุบัน สามารถทำได้รวดเร็วขึ้น อ่อนโยนมากขึ้น และบางนวัตกรรมไม่จำเป็นต้องมีการใช้ยาสลบก่อนดูดไขมันอีกด้วย เป็นเพียงการใช้ยาชาเฉพาะจุดเท่านั้น ซึ่งคนไข้จะรู้สึกตัวตลอดระยะเวลาการรักษา และช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้สุขภาพ และการเตรียมตัวก่อนดูดไขมันของคนไข้ ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันนะคะ โดยในขั้นตอนการปรึกษากับคุณหมอ คนไข้ควรบอกข้อมูลต่างๆ อย่างครบถ้วนตามความเป็นจริง ทั้งเรื่องของสุขภาพ การรับประทานยาหรือวิตามินต่างๆ รวมถึงอาการแพ้ของคนไข้อย่างละเอียด เพื่อที่แพทย์จะได้วางแผนประเมินการรักษาที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยอย่างสูงสุดต่อคนไข้ค่ะ

โดยปกติก่อนเริ่มดูดไขมันจะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือในบางคลินิกจะมีการใช้ยาสลบ ซึ่งคนไข้จะรู้สึกเจ็บเหมือนมดกัดในขั้นตอนของการฉีดยาชาเท่านั้น ส่วนในระหว่างการดูดไขมันอาจมีอาการตึงๆ ในบางจังหวะที่แพทย์เคลื่อนมือเท่านั้น หรือในบางคนจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บเลย

ความจริงแล้วการดูดไขมันเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับทุกคน ทั้งหญิงและชายที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจในรูปร่าง รวมถึงกลุ่มคนที่พยายามควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่ยังคงมีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ การดูดไขมันช่วยแก้ปัญหานี้ได้ตรงดี

 

สำหรับปริมาณของไขมันที่สามารถดูดออกมาได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งรูปร่าง บริเวณการรักษา รวมถึงความพึงพอใจของคนไข้ โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาจะประเมินและออกแบบการดูดไขมันให้เหมาะสมกับคนไข้ที่สุดค่ะ

เนื่องจากการดูดไขมัน ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่รูปแบบหนึ่ง การศึกษาหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้มากเพียงพอและการเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งก่อนและหลังดูดไขมันล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลย ดังนั้นเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังเตรียมตัวเข้ารับการดูดไขมัน เรามาทำความรู้จัก 4 ขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการดูดไขมันกันค่ะ


STEP 1 : เข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกหรือโรงพยาบาล

  • เริ่มจากการกรอกข้อมูลต่างๆ รวมถึงโรคประจำตัว การแพ้อาหารหรือยาต่างๆ ตามความเป็นจริง
  • ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูงและสัดส่วน เพื่อให้แพทย์ประเมินรูปร่าง
  • พูดคุยและปรึกษาถึงความต้องการต่างๆ เพื่อให้แพทย์แนะนำการรักษาที่เหมาะสมของแต่ละคน
  • นัดวันเข้ารับการผ่าตัด

STEP 2 : การเตรียมพร้อมก่อนวันดูดไขมัน

  • ตรวจร่างกายตามคำแนะนำของแพทย์
  • งดรับประทานยาหรือวิตามิน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือตามดุลยพินิจของแพทย์
  • ควรพักผ่อนให้เพียงพอ
  • งดรับประทานอาหารและน้ำ 6-8 ชั่วโมง

 STEP 3 : ขั้นตอนในการดูดไขมัน

  • เซ็นต์เอกสารยินยอมให้ทำการรักษา
  • บันทึกภาพและวัดสัดส่วนก่อนการรักษา เพื่อเปรียบเทียบกับผลลัพธ์หลังการรักษา
  • ทางแพทย์จะทำการมาร์กตำแหน่งต่างๆ ที่จะทำการรักษา
  • รับยาฆ่าเชื้อ และเข้าห้องผ่าตัด
  • ทำการขัดผิวด้วยยาฆ่าเชื้อเพื่อทำความสะอาดร่างกายก่อนผ่าตัด
  • แพทย์จะมีการฉีดยาชาเพื่อเปิดแผลผ่าตัด และเริ่มขั้นตอนการดูดไขมัน
  • หลังเสร็จขั้นตอนการดูดไขมัน ทางแพทย์จะอธิบายขั้นตอนต่างๆ รวมทั้งวิธีการดูแลตัวเอง จากนั้นคนไข้สามารถกลับบ้านได้เลย (ควรมีญาติหรือคนรู้จักเดินทางมารับ)

STEP 4 : การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน

  • ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  • หลังดูดไขมัน อาจมีอาการปวดระบม 1-2 วัน แต่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
  • ช่วง 3 วันแรกหลังจากการดูดไขมัน อาจมีน้ำซึมออกจากบาดแผลได้เป็นปกติ และคนไข้ควรเปลี่ยนผ้าปิดแผลอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง
  • หลีกเลี่ยงให้แผลโดนน้ำเวลา 1 สัปดาห์ เนื่องจากอาจทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
  • หลังจากดูดไขมัน 1 สัปดาห์ แพทย์จะมีการนัดเข้ามาเพื่อติดตามผลและตัดไหมเย็บแผล
  • ใส่ชุด Support รัดในตำแหน่งที่ดูดไขมัน ตลอดเวลายกเว้นช่วงเวลานอน และใส่เป็นเวลาอย่างน้อย 2 เดือนเพื่อรักษาสัดส่วนในคงรูปที่สุด
ทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการดูดไขมันในลักษณะการดูดแล้วทิ้งไปเท่านั้นนะคะ ซึ่งหากเป็นการดูดไขมันในลักษณะที่มีการเติมกลับเข้าสู่ร่างกาย (Fat Transfer) จะมีขั้นตอนในการดูแลตัวเองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหลักๆ แล้วจะแนะนำให้มีการหลีกเลี่ยงการกด บีด รัด หรือนวด ในบริเวณที่ทำการเติมไขมันกลับเข้าไป และไม่ควรทำกิจกรรมต่างๆ ที่เน้นการออกแรงหนักๆ เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือน และลดอัตราการรอดของเซลล์ไขมันที่เติมกลับเข้าไปค่ะ

การดูดไขมัน เป็นเทคโนโลยีทางลัดเพื่อช่วยให้เรามีรูปร่างที่เรียวเล็ก มีส่วนโค้งส่วนเว้าที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และไม่ใช่การลดน้ำหนัก โดยข้อดีของการดูดไขมัน คือ สามารถเลือกดูดไขมันส่วนเกินออกได้อย่างเฉพาะจุด รวมถึงสามารถดูดไขมันออกได้ทุกประเภท ทั้งชนิดที่เป็นไขมันปกติ และไขมันดื้อด้านที่กำจัดยากซึ่งการออกกำลังกายไม่สามารถกำจัดออกได้ อีกทั้งไขมันที่ได้ออกมายังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อได้ เช่น นำกลับมาเติมเต็มใบหน้า หน้าอก ก้น เป็นต้น

 

ข้อจำกัดของการดูดไขมันก็มีเช่นกัน คือ จำเป็นที่จะต้องมีการเปิดแผลซึ่งอาจก่อให้เกิดรอยแผลเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในช่วงแรกอาจมีน้ำปนเลือดซึมออกมาจากบาดแผลร่วมกับมีอาการเจ็บตึงแผล และมีอาการช้ำในระยะเวลาหนึ่ง หรือในบางคนอาจมีผิวหนังเป็นคลื่นเกิดขึ้นได้ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน รวมถึงการดูแลตัวเองหลังดูดไขมันด้วยค่ะ 

อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันนี้ ได้มีเทคโนโลยีความงามมากมายมาลดข้อจำกัดต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เช่น ในกรณีที่มีปัญหาผิวเป็นคลื่น ไม่กระชับหลังดูดไขมัน แพทย์จะนัดคนไข้เข้ามาปรับรูปร่างอีกครั้งด้วยการใช้นวัตกรรมในกลุ่มคลื่นวิทยุ (RF) ที่ช่วยให้ผิวบริเวณที่เป็นคลื่นนั้น ค่อยๆ เรียบเนียนและตึงกระชับยิ่งขึ้นเพื่อรูปร่างที่เข้ารูป ดูสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นค่ะ

ดูดไขมัน

การดูดไขมันสามารถทำได้ในทุกส่วนของร่างกายที่มีไขมันส่วนเกินมากเพียงพอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีและดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาด้วยนะคะ โดยบริเวณที่คนส่วนใหญ่นิยมดูดไขมัน ได้แก่

  • หน้าท้อง
  • ต้นแขน
  • ต้นขา
  • หน้าอก
  • สะโพก
  • หลัง
  • ก้น

และยังมีบริเวณอื่นๆ อีก เช่น ไขมันใต้คาง, ต้นคอ, กระพุ้งแก้ม รวมถึงหัวเข่า

“ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อแล้วว่าคุณสนใจดูดไขมันจริงๆ หากคุณกำลังมองหาคลินิกดูดไขมันอยู่ แต่ไม่รู้จะเลือกดูดไขมันที่ไหนดี มีที่ไหนปลอดภัยบ้าง ไม่ต้องกังวลไปค่ะ บริษัทเทคนิคอลไบโอเมด ในฐานะผู้นำเข้านวัตกรรมเครื่องมือแพทย์เสริมความงามมาตรฐาน Gold Standard ได้รับรอง THAI&U.S.FDA เราได้รวบรวมคลินิกดูดไขมันที่เชื่อถือได้มาแนะนำค่ะ โดยมีเกณฑ์คัดเลือกดังนี้”

  • แพทย์มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการดูดไขมัน

  • แพทย์มีประสบการณ์ดูดไขมันสูง วัดจากจำนวนเคส และยอดรีวิวจากคนไข้จำนวนมาก

  • คลินิกหรือโรงพยาบาลนั้นเลือกใช้เครื่องดูดไขมัน body-jet ที่เป็นนวัตกรรมดูดไขมันด้วยพลังน้ำ ซึ่งเป็นที่นิยมในวงการศัลยแพทย์เพราะมีความอ่อนโยนต่อคนไข้ และปลอดภัยสูง ไม่จำเป็นต้องวางยาสลบคนไข้ อุปกรณ์ออกแบบมาเป็น Sigle Use ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งจึงลดโอกาสในการติดเชื้อ อีกทั้งเครื่องมีมาตรฐาน Gold Standard ได้รับรอง THAI & U.S.FDA

  • คลินิกหรือโรงพยาบาลนั้นมีห้อง Operation สะอาด ปลอดเชื้อ

  • บริการหลังการดูดไขมันเป็นที่น่าประทับใจ มีการบอกต่อจากคนไข้

รวมคลินิกดูดไขมันด้วย body-jet

ดาวน์โหลด Checklist ก่อนดูดไขมัน

Send download link to:

ศูนย์ดูดไขมัน เติมไขมัน กระชับสัดส่วนเฉพาะทางที่เน้นความปลอดภัยและคุณภาพเป็นหลัก นำทีมโดยคุณหมอไอซ์และคุณหมอมะปราง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่พร้อมเลือกสรรสิ่งที่ทันสมัยและได้มาตรฐานสูงสุด ดูแลคนไข้ในทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เริ่มต้นให้คำปรึกษา จนถึงการดูแลติดตามผลหลังเพื่อผลลัพธ์ของคนไข้ที่ดีที่สุดค่ะ หากใครสนใจดูดไขมันที่ Amara Clinic ทั้ง 2 สาขา

1. สาขา รัชโยธิน (ใกล้เมเจอร์รัชโยธิน)

เบอร์ติดต่อ : 062-946-2397

2. สาขา ราชพฤกษ์ (ใกล้ The Crystal SB ราชพฤกษ์)

เบอร์ติดต่อ : 062-556-6623

 

 

หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/AmaraDoctor

Website : https://www.amara-clinic.com

LINE : @amaraclinic

คลินิกเสริมความงามและศูนย์บริการดูดไขมันด้วย body-Jet มีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์มากกว่าสิบปี นำทีมโดย “คุณหมออ้อย” ผู้มีประสบการณ์ด้านความงามและดูดไขมัน ซึ่งเน้นการออกแบบรูปร่างของคนไข้ให้ดูดี 360 องศา ด้วยความเชื่อที่ว่า “ความสวยไม่ใช่เรื่องเกินเอื้อม และออกแบบได้ด้วยตัวคุณเอง”

หากใครสนใจดูดไขมันที่ YDC You Desire Clinic ทั้ง 2 สาขา

1.สาขา เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ เลียบด่วน

เบอร์ติดต่อ : 061-1962-391

2.สาขา แยก ม.เกษตร (คอนโดศุภาลัย ปาร์ค แยกเกษตร)

เบอร์ติดต่อ : 088-1991-626

 

หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/Youdesireclinic

Website : https://www.youdesireclinic.com

LINE : @youdesireclinic

คลินิกดูแลผิวพรรณ ความงามทั่วเรือนร่าง รวมถึงงานศัลยกรรมและดูดไขมัน ดำเนินการโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ทั้งในและต่างประเทศ มากกว่า 11 ปี ให้ความสำคัญเรื่องประสิทธิภาพการรักษา และความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยระดับโลก บริการที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยค่ะ

หากใครสนใจดูดไขมันที่ KPS Clinic

เบอร์ติดต่อ : 097-242-3294

 

หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/kpsclinicth

Website : https://kpsclinic.com

LINE : @kpsclinic

คลินิกความงามใจกลางเมือง ให้บริการด้านความงาม ปรับรูปหน้า แก้ไขโหงวเฮ้ง และเวชศาสตร์ชะลอวัย รวมถึงดูดไขมันและดูแลสุขภาพแบบครบวงจร นำทีมโดยคุณหมอขนม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยจากอเมริกา โดยมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ และ ได้คัดสรรเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน เพื่อผลลัพธืที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้ เรียกได้ว่าดูแลได้ทั้งผิวพรรณความงาม และสุขภาพแบบองค์รวม

หากใครสนใจดูดไขมันที่ Roselin Wellness Center

เบอร์ติดต่อ : 091-010-9379

 

หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/Roselinwellness

Website : https://rwcclinic.com/

LINE : @roselinwellness

คลินิกด้านความงามและผิวพรรณ รวมถึงการดูดไขมัน ที่ให้ความใส่สำคัญกับการเลือกเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานและการยอมรับจากทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการบริการ และบรรยากาศที่อบอุ่น ใส่ใจในประสิทธิภาพของการรักษา เพื่อให้คนไข้ได้รับการรักษาที่ดีและเหมาะที่สุดสำหรับแต่ละคน

หากใครสนใจดูดไขมันที่ Sense Skeyn Clinic ทั้ง 2 สาขา

1.สาขาสงขลา

เบอร์ติดต่อ : 074-327-338, 085-671-0008

2.สาขาหาดใหญ่

เบอร์ติดต่อ : 074-230377, 083-193-1117

 

หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/Senseskeynclinic

Website : https://www.senseskeynclinic.com

LINE : @SENSESKEYNCLINIC

คลินิกที่เน้นให้บริการโปรแกรมการรักษาด้านความงาม ชะลอวัย และศัลยกรรมหลากหลายรวมทั้งดูดไขมัน ให้บริการด้วยความปลอดภัย ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ด้วยเทคนิคเฉพาะตัวเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องของแต่ละบุคคลได้อย่างตรงจุด

หากใครสนใจดูดไขมันที่ Masterwork Clinic (อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 1)

เบอร์ติดต่อ : 083-435-6868

 

 

หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/masterworkclinic

Website : https://masterworkclinic.com/

LINE : @masterworkclinic

สุดท้ายนี้ สำหรับสาวๆ และหนุ่มๆ ที่ต้องการหาทางลัดเพื่อรูปร่างที่ดี โดยไม่ต้องเหนื่อยกับการคุมอาหารและออกกำลังกาย “การดูดไขมัน” ก็คือทางเลือกที่ตรงจุดค่ะ และขอฝากข้อคิดสำคัญเพื่อเตือนใจผู้ที่สนใจในเทคโนโลยีดูดไขมันนี้ว่า “การดูดไขมันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผ่าตัด ซึ่งอาจมีความเสี่ยงเกิดขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด มองหาคลินิกที่ได้มาตรฐาน สอบถามและประเมินอัตราค่ารักษาให้สมเหตุสมผล ทั้งนี้คนไข้เองควรมีความพร้อมสำหรับการดูดไขมัน ไม่ปกปิดข้อมูลด้านสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและความปลอดภัยอย่างสูงสุดต่อคนไข้เองนะคะ”

 

ท้ายที่สุดนี้หลังจากเราพึ่งทางลัดในการมีหุ่นสวยแล้ว ควรหมั่นดูแลรูปร่างเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ควบคู่กับการออกกำลังกาย ที่สำคัญต้องพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อผลลัพธ์หุ่นสวยที่ยั่งยืนนะคะ 

Find a treatment provider nearby you

1. Put your location

2. Choose category

3. Select distance

4. Find treatment providers nearby your location

Radius: KM
Loading...
HOSPITALS & CLINICS: 0 PRINT

Store Direction

Get Your Directions

LOCATE YOUR GEOPOSITION

IMCAS Asia 2022
News & Events
Technicalbiomed

IMCAS Asia 2022

ขอเชิญเข้าร่วมงาน“IMCAS Asia 2022”วันที่ 29-30 กันยายน,

Read More »
ADAC IAS 2022
News & Events
Technicalbiomed

ADAC IAS 2022

ขอเชิญเข้าร่วมงานประชุมเชิงปฏิบัติการ“ADAC IAS 2022”วัน

Read More »
กำจัดขน

ขนเจ้าปัญหา กับวิธีกำจัดออกรูปแบบต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

กำจัดขน

ขนเจ้าปัญหา กับวิธีกำจัดออกรูปแบบต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

การมีผิวสวย ไม่ใช่แค่การมีผิวขาวกระจ่างใส แต่รวมถึงการมีผิวที่เรียบเนียน ปราศจากริ้วรอย หรือเม็ดสีกระดำกระด่าง และอีกหนึ่งเรื่องที่เป็นปัญหาสำหรับคนส่วนใหญ่และเป็นหนึ่งในหัวข้อสนทนาในกลุ่มสาวๆ ยุคปัจจุบันนี้ ก็คือเรื่องขนนั่นเอง โดยเจ้าขนนี้ เป็นอวัยวะที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา แต่หากมีมากจนเกินไป ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาได้ ทั้งในเรื่องของความสะอาด กลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ รวมถึงความมั่นใจในการสวมใส่เสื้อผ้าของหนุ่มๆ และสาวๆ ซึ่งในบทความนี้เราจะพูดถึงวิธีการกำจัดขนกัน เพื่อให้เราเข้าใจและเลือกวิธีการกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

การกำจัดขนที่ไม่พึงประสงค์ มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของไทย ซึ่งผู้หญิงในอยุธยา กว่า 100 ปีที่ผ่านมา มีการใช้แหนบในการถอนขนบริเวณรักแร้ ซึ่งยังมีการใช้วิธีการนี้อยู่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ดังปรากฏหลักฐานอยู่ในกาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศก ซึ่งประพันธ์โดยเจ้าฟ้าธรรมมาธิเบศร แห่งราชวงศ์บ้านพูหลวง ความว่า

 

ไรน้อยรอยแหนบทึ้ง…..ถอนแถว

เป็นระเบียบตามแนว…..รอบเกล้า

ริมเผ้าเพราพริ้งแวว…..แลเลิศ

ผมมวยรวยปีกเจ้า…..เรียบร้อยไรงาม

 

ต่อมาเมื่อความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีส่วนในด้านต่างๆ ของเรามากขึ้น จึงได้เกิดวิธีการต่างๆ เพื่อใช้ในการกำจัดขนมาจนถึงปัจจุบัน โดยเราสามารถแบ่งการกำจัดขนได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

  • Depilation : เป็นการกำจัดขนเพียงบริเวณพื้นผิว โดยไม่ทำลายโครงสร้างของขนใต้ผิวหนังเลย เช่น การแว๊กซ์ การโกน รวมถึงการใช้ครีมกำจัดขน ซึ่งเป็นการกำจัดขนได้เพียงระยะสั้นๆ ไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ เท่านั้น นอกจากเป็นวิธีการที่เจ็บแล้ว ยังส่งผลข้างเคียง ทั้งทำให้เกิดผิวหนังไก่ รอยแผล รอยดำ ต่างๆ ได้อีกด้วย

 

  • Epilation : เป็นการกำจัดขนที่สามารถทำลายได้ลึกถึงโครงสร้างของเส้นขนภายใต้ชั้นผิวหนัง เช่น การใช้ LASER , IPL หรืออุปกรณ์ Electroepilation ที่ให้ผลการรักษาได้ในระยะเวลายาวนานหลายสัปดาห์ ซึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือการกำจัดขนด้วย LASER  แต่ควรเลือกสรรให้เหมาะสมกับตัวเองเนื่องจากหากเลือกใช้เลเซอร์ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดผลเสียตามมาได้ เช่น ผิวเกิดการเบิร์น แสบผิว หรือนอกจากขนจะไม่หลุดล่วงไปแล้วยังอาจทำให้ขนเกิดมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

การใช้เทคโนโลยี LASER เพื่อการกำจัดขนนั้น สามารถกำจัดขนได้ในระยะ Anagen phase เท่านั้น และขนในแต่ละบริเวณก็มีวงจรชีวิตที่แตกต่างกันออกไป สำหรับเลเซอร์ที่ได้รับการออกแบบเพื่อการกำจัดขนโดยตรง มีด้วยกันหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Ruby Laser (694 nm) , Alexandrite Laser (755 nm) , Nd : YAG Laser (1064 nm) และ Diode Laser (800-810 nm, 940 nm, 1064-1350 nm)  โดยทุกชนิดมีหลักการทำงานด้วยการส่งพลังงานเลเซอร์ลงสู่รากขนอย่างช้าๆ (รูปแบบ Long pulse (ms)) ซึ่งเซลล์เม็ดสีเมลานินในเส้นขนจะทำหน้าที่เป็นโครโมฟอร์ที่ดูดซับพลังงานเลเซอร์ไว้ จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนและถ่ายเทสู่เซลล์ต้นกำเนิดขน ทำให้เนื้อเยื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างขน รวมถึงเส้นเลือดที่มาหล่อเลี้ยงเส้นขนไม่สามารถผลิต Stemcell  ต้นกำเนิดของเส้นขนได้ ส่งผลให้วงจรการเกิดใหม่ของเส้นขนมีความช้าลง บางลง จนหมดไปในที่สุดหากทำการเลเซอร์ติดต่อกันซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง

 

สำหรับเลเซอร์เพื่อการกำจัดขนในประเทศไทยที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน คือ Long pulse Nd: YAG และ Diode Laser เนื่องจากสามารถตอบโจทย์การรักษาได้ดีที่สุด จึงทำให้หลายๆ คนเกิดข้อสงสัยว่าระหว่าง YAG และ Diode Laser แตกต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่ากัน และผิวของคนไทยอย่างเรา เหมาะกับ Laser ชนิดใดกันแน่

 

 

Long pulse Nd : YAG Laser

Long pulse Nd : YAG หรือที่คนทั่วไปรู้จักในชื่อ “YAG Laser” เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1064 nm.

 

ข้อดี

  • มีความจำเพาะเจาะจงต่อเมลานินสูง
  • พลังงานสามารถลงได้ลึกสูงสุด 7
  • แก้ไขปัญหาขนคุดได้
  • สามารถทำในบริเวณพื้นที่เล็กๆ ได้
  • ปลอดภัยสำหรับทุกสีผิว Skin Type I-VI

ข้อจำกัด

  • ให้ความรู้สึกเจ็บขณะทำการรักษา
  • มีข้อจำกัดในการกำจัดขนเส้นที่บางมากๆ
  • ต้องใช้พลังงานค่อนข้างสูง อาจทำให้เสี่ยงเบิร์นได้

 

Diode Laser

Diode Laser เป็นเทคโนโลยีน้องใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดขน โดยมีความยาวคลื่นที่แตกต่างกันออกไป เช่น 800 – 810 nm , 940 nm , 1064 -1350 nm

 

ข้อดี

  • มีความจำเพาะเจาะจงต่อเมลานินสูงมาก
  • สามารถให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ แม้ใช้พลังงานต่ำ
  • รักษาได้อย่างรวดเร็ว
  • ปลอดภัยต่อผิว มีความเสี่ยงน้อย
  • มี Cooling สำหรับผิวด้านบน ทำให้รู้สึกสบายขณะทำการรักษา
  • เหมาะสำหรับผู้มีผิว Skin type I-V

ข้อจำกัด 

  • ยังมีผลการวิจัยค่อนข้างน้อย
  • มีข้อจำกัดในบริเวณพื้นที่เล็กๆ ที่เข้าถึงยาก

 

นวัตกรรมเพื่อการกำจัดขนแต่ละประเภทนั้น ต่างมีข้อดี และข้อจำกัดที่ต่างกันออกไป ดังนั้นเราจึงไม่อาจตัดสินได้อย่างแน่ชัดว่านวัตกรรมใดจะดีที่สุด เนื่องจากต้องพิจารณาถึงปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นสีผิว สีของเส้นขน บริเวณที่ทำการรักษา ระยะวงจรชีวิตของขน นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลรวมถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้ทำการรักษาด้วย ดังนั้นการศึกษาข้อมูลต่างๆ ก่อนเข้ารับการรักษาจะช่วยให้เราเลือกนวัตกรรมในการกำจัดขนที่เหมาะสมกับเรา และทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุด

IMCAS Asia 2022
News & Events
Technicalbiomed

IMCAS Asia 2022

ขอเชิญเข้าร่วมงาน“IMCAS Asia 2022”วันที่ 29-30 กันยายน,

Read More »
ADAC IAS 2022
News & Events
Technicalbiomed

ADAC IAS 2022

ขอเชิญเข้าร่วมงานประชุมเชิงปฏิบัติการ“ADAC IAS 2022”วัน

Read More »
ทำการตลาดคลินิกกำจัดขน

ทำการตลาดทรีทเมนท์กำจัดขนถาวรในคลินิกเสริมความงามอย่างไร? ให้เหนือกว่าแบบ Home user

ทำการตลาดคลินิกกำจัดขน

ทำการตลาดทรีทเมนท์กำจัดขนถาวรในคลินิกเสริมความงามอย่างไร? ให้เหนือกว่าการกำจัดขนเองที่บ้าน

การกำจัดขนยังคงเป็นอีกหนึ่งความต้องการในตลาดความงามทั่วโลกของทุกเพศ ที่ต้องการมีผิวใสไร้เส้นขน โดยมูลค่าของตลาดเลเซอร์กำจัดขนทั่วโลก มีมูลค่า 587 ล้าน และคาดว่าจะเติบโตในอัตรา ร้อยละ 15% นับจากนี้ ไปจนถึงปี 2569 โดยที่ผ่านมาตลาดความงาม ได้พยายามสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภคโดยไม่ต้องไปเข้ารับบริการจากคลินิกเสริมความงาม ก็สามารถมีผิวสวย เนียน ใส ได้ ทั้งในรูปแบบของครีมกำจัดขน เครื่องกำจัดขนแบบ Home User โดยใช้ลำแสงที่มีเข้มข้นสูง อย่าง IPL (ย่อมาจาก Intense Pulsed Light) ที่ราคาต่ำแต่ความแม่นยำและผลลัพธ์นั้น ไม่สามารถเทียบได้กับอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างเครื่องเลเซอร์ ที่ได้รับการรองรับจากงานวิจัยทางการแพทย์ แล้วถึงประสิทธิภาพ ที่ช่วยกำจัดเส้นขนอย่างถาวร โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง

ซึ่งนับเป็นเรื่องยากที่คลินิกความงามในตลาดของประเทศไทย จะต่อสู้กับตลาดของการกำจัดเส้นขน ในยุค 2021 นี้


สิ่งสำคัญที่จะสามารถชิงส่วนแบ่งทางการตลาดกลับคืนมาจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้ คือการทำให้คนไข้ เข้าใจถึงหลักการของการทำงานของลำแสงเลเซอร์ ที่มีนาโนเมตรเหมาะสมกับการกำจัดขน ที่สามารถลงลึกได้ถึงรากขนอย่างแท้จริง ร่วมกับความเข้าใจ ในเรื่องของ วงจรชีวิตของเส้นขน (Hair growth cycle)

เรื่องน่ายินดี คือ คนไข้ส่วนใหญ่ที่ต้องการกำจัดเส้นขนแบบถาวร เลือกที่จะไว้วางใจเครื่องมือแพทย์ หรือเครื่องเลเซอร์กำจัดขน รวมถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีเพียง 15% เท่านั้น ที่เสียเงินทดลองเครื่องกำจัดขนแบบ Home user  อีกหนึ่งสิ่ง คือการให้คนไข้นั้นเข้าใจถึง ความคุ้มค่าของการทำทรีทเมนท์กำจัดขนแบบถาวรเมื่อเทียบกับเครื่องมือที่ไม่ใช่เกรดเครื่องมือแพทย์

ทำไมทรีทเมนท์การกำจัดขนถาวรที่ใช้เครื่องมือแพทย์โดยแพทย์ผู้เชียวชาญถึงดีกว่า?

เมื่อพิจจารณาถึงผลลัพธ์ด้านการรักษาแล้ว จะพบว่ามีประสิทธิภาพที่สูงกว่าเครื่องกำจัดขนแบบ Home user ทั้งในด้านของความปลอดภัยกว่า ความสามารถปรับค่าพลังงานได้หลากหลายเพื่อให้เหมาะสมกับทุกสีผิว และผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า อย่างเช่น MeDioStar Monolith ไดโอดเลเซอร์กำจัดขนถาวร จากประเทศเยอรมันนี เนื่องจากใช้เลเซอร์ถึง 2 ช่วงคลื่น ในกลุ่มของเลเซอร์ Diode (810 และ 940 nm) ที่สามารถกำจัดเส้นขน และเส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงรากขนได้ในหนึ่งเดียว


อย่างไรก็ตามอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะสื่อสารกับคนไข้ให้เข้าใจ ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการสื่อสารผ่านเครื่องมือทางการตลาดในคลินิกของคุณ ในบทสรุปนี้คุณอาจจะต้องใช้ความพยายามอย่างค่อยเป็นค่อยไปกับคนไข้ในอนาคตของคุณ เพื่อให้สามารถเข้าถึงการรักษาที่มีความปลอดภัยสูง ได้มาตรฐานสากล และเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ

IMCAS Asia 2022
News & Events
Technicalbiomed

IMCAS Asia 2022

ขอเชิญเข้าร่วมงาน“IMCAS Asia 2022”วันที่ 29-30 กันยายน,

Read More »
ADAC IAS 2022
News & Events
Technicalbiomed

ADAC IAS 2022

ขอเชิญเข้าร่วมงานประชุมเชิงปฏิบัติการ“ADAC IAS 2022”วัน

Read More »
จับตามองทิศทางของตลาดการปลูกผม จะเป็นอย่างไรในอนาคต

จับตามองทิศทางของตลาดการปลูกผม จะเป็นอย่างไรในอนาคต?

จับตามองทิศทางของตลาดการปลูกผม จะเป็นอย่างไรในอนาคต

จับตามองทิศทางของตลาดการปลูกผม จะเป็นอย่างไรในอนาคต?

เริ่มต้นปี ด้วยเทรนด์ด้านความงามใหม่ๆ ที่อาจช่วยตอบข้อสงสัยของแพทย์ที่กำลังพิจารณาเพิ่มไลน์ทรีทเมนท์การรักษาในคลินิกของตนเอง ยกตัวอย่างเช่น การปลูกผม ซึ่งแพทย์หลายท่านอาจมีความกังวลในการเริ่มลงทุนว่าจะให้ผลที่คุ้มค่าหรือไม่? วันนี้เรามาหาคำตอบกันค่ะ

 

ซึ่งจากผลการสำรวจของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (ISHRS) ในช่วงระหว่างปี 2016-2019 จำนวนของผู้ที่มีปัญหาผมร่วงจนถึงจุดที่ต้องการการรักษาทางการแพทย์เพิ่มขึ้นกว่า 13%  และนอกจากนี้จากผลการสำรวจยังเผยว่า ในปี 2019 มีการผ่าตัดเพื่อฟื้นฟูปัญหาเส้นผมโดยผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกสูงถึง 735,312 ครั้ง ซึ่งมีสถิติสูงขึ้นถึง 16% เมื่อเทียบกับปี 2016 

 

จากปี 2019 ที่ผ่านมามีผู้ป่วยที่มีปัญหาเส้นผมจำนวน 1,401,589 ราย ที่เลือกวิธีการฟื้นฟูเส้นผมด้วยเทคนิค Follicular Unit Extraction (FUE) โดยมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากปี 2016 อยู่ที่ประมาณ 13% และเมื่อเทียบสถิติจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการปลูกผมตั้งแต่ปี 2008- 2019 ระบุว่ามีการเติบโตที่สูงขึ้นถึง 157%  ซึ่งสถิติเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของเทรนด์การฟื้นฟูเส้นผมจากทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีสัญญาณว่าจะชะลอตัวลงในระยะเวลาอันใกล้นี้

 

โดยจากผู้เข้ารับการรักษาจากทั่วโลก โดยแบ่งผู้ป่วยออกเป็นแต่ละทวีป มีสถิติดังนี้

  • ทวีปเอเชีย : 196,630 คน
  • ตะวันออกกลาง : 188,360 คน
  • สหรัฐอเมริกาและแคนาดา : 182,025 คน
  • ยุโรป : 106,949 คน