ประเภทของสิว
เรื่องของ “สิว” เป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่ค่อนข้างมีผลกระทบในวงกว้าง พบเจอได้ทั้งหญิงและชาย โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น โดยจากสถิติของสถาบันโรคผิวหนังในประเทศไทยช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น ปัญหาสิวติด 1 ใน 5 อันดับแรก ของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาเสมอๆ
ด้วยเหตุที่ “สิว” มีความรุนแรงและมีผลกระทบที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล การได้รู้จักและเข้าใจ “ประเภทของสิว” จะทำให้เราสามารถดูแลและจัดการกับปัญหาสิวที่กวนใจผิวเราได้ดีขึ้น เพื่อผิวพรรณที่สวยงามของเรา ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนนะคะว่า “สิวเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง”
สิวเกิดจากอะไร?
เจ้าสิว เม็ดจิ๋วๆ ที่ขึ้นตามใบหน้าและบางบริเวณของร่างกายเรานั้น เกิดจากการที่น้ำมัน (Sebum) สิ่งสกปรก เซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมทั้งแบคทีเรีย เกิดการสะสมและอุดตันในรูขุมขน จนเกิดเป็นจุดเล็กๆ นูนขึ้นมาเหนือผิวหนัง อาจเกิดการอักเสบ บวมแดง หรือเกิดเป็นหนอง เล็กน้อยจนถึงขนาดใหญ่ที่อาจสร้างความเจ็บปวดหรือทิ้งแผลเป็นไว้หลังจากอาการทุเลาลงไปแล้วได้
สำหรับปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวนั้น อาจเกิดได้จากทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งสาเหตุนี้เห็นได้ชัดในกลุ่มวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง หรือคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ก็อาจมีสิวขึ้นได้มากกว่าช่วงปกติ ผลของความเครียดก็เช่นเดียวกัน เมื่อเราเครียดร่างกายจะมีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวและอาจทำให้การอักเสบเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ส่วนปัจจัยภายนอกที่เป็นตัวการก่อสิว เช่น การรับประทานอาหารมัน หรือของทอดมากเกินไป การล้างหน้าไม่สะอาด หรือการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่เข้ากับสภาพผิว ก็อาจทำให้เกิดปัญหาสิวตามมาได้
สิวแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ
ได้แก่ สิวไม่อักเสบหรือสิวอุดตัน (Comedone) และสิวอักเสบ (Inflammatory acne)
1.สิวไม่อักเสบ (Comedone) เป็นสิวขนาดเล็กที่เกิดจากการอุดตันของคอมีโดน (Comedones) ในรูขุมขน โดย คอมีโดน (Comedones) เป็นการรวมกันของซีบัมที่หลั่งออกมามากเกินไป ร่วมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ขนอ่อนที่ไม่สามารถงอกผ่านรูขุมขนออกมาได้ และ P.Acne ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เจริญเติบโตได้ดีในที่ๆ ไม่มีอากาศ และชอบอาหารประเภทไขมัน ซึ่งเป็นต้นตอที่ก่อให้เกิดเป็นสิวนั่นเอง สำหรับสิวไม่อักเสบนั้น เราแบ่งออกเป็นประเภทย่อยๆ ได้เป็น 2 ประเภท คือ
- Whiteheads : สิวหัวขาว หรือ Close comedones เกิดจากการรวมกันของซีบัมและเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่สะสมอยู่ในรูขุมขน ปรากฏเป็นตุ่มหรือจุดสีขาว บนผิวบริเวณนั้นๆ
- Blackheads : สิวหัวดำ หรือ Open comedone โดยสีดำที่หัวสิวนั้นไม่ได้เกิดจากสิ่งสกปรกหรือการติดเชื้อต่างๆ แต่เกิดจากสิวหัวขาวที่รูขุมขนบริเวณนั้นเปิดออก และสัมผัสกับอากาศจนเกิดการออกซิไดซ์ ทำให้สิวหัวขาวกลายเป็นสีดำนั่นเอง โดยทั่วไปมักพบบริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าอกและหลัง
2. สิวอักเสบ (Inflammatory acne) เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนและต่อมไขมันใต้ผิวหนังที่มีสิวอุดตันก่อตัวอยู่ หรือเกิดกระบวนการอักเสบขึ้นเอง สิวอักเสบแม้จะเป็นเพียงจุดเล็กๆ บนใบหน้า แต่กลับสร้างปัญหาในเรื่องของความมั่นใจ ก่อให้เกิดความเจ็บปวด และปัญหารอยสิวต่างๆ ตามมาได้ โดยสิวอักเสบมีด้วยกันหลายระดับ ดังนี้
- Papules : สิวตุ่มนูน (แพพิว) มีลักษณะเป็นตุ่มสีแดงขนาดเล็กกว่า 0.5 เซนติเมตร เป็นสิวอักเสบระยะแรกที่พัฒนามาจากสิวอุดตัน สร้างความเจ็บปวดได้เล็กน้อย
- Pustules : สิวตุ่มหนอง มีลักษณะเป็นตุ่มสีแดงที่มีหนองสีขาวอยู่บริเวณด้านบนหัวสิว อาจเกิดจากสิวบริเวณนั้นเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่นๆ แทรกซ้อนเข้ามา โดยมีการอักเสบและสร้างความเจ็บปวดมากกว่าสิวชนิด Papules
- Nodules : สิวอักเสบก้อนลึก เป็นตุ่มแดง ขนาดใหญ่กว่า 0.5 เซนติเมตร มีการอักเสบใต้ผิวหนัง เมื่อสัมผัสจะค่อนข้างเจ็บปวด มีสาเหตุเกิดจากการเป็นสิวชนิด Papules แล้วเกิดการบีบสิว จนทำให้แบคทีเรียและน้ำมันในตุ่มสิวแตกกระจายอยู่ใต้ผิวหนังทำให้เกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น
- Cyst : สิวเป็นถุงขนาดใหญ่ใต้ผิวหนัง เป็นสิวอักเสบที่รุนแรงที่สุด มีขนาดใหญ่ ลักษณะเป็นถุงใต้ผิวหนัง ภายในมีหนองอักเสบ โดยทั่วไปมักเจ็บปวดและอาจต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ หลังจากสิวหายดีแล้วมักทิ้งเป็นรอยแผลจากสิวไว้ด้วย
นอกจากสิวทั้ง 2 ประเภทนี้แล้ว ยังมีสิวประเภทอื่นๆ ที่เราอาจพบได้อีกเช่นกัน อย่างสิวจากการติดสารสเตียรอยด์, สิวข้าวสาร ซึ่งเป็นสิวที่ยากต่อการรักษาและยังไม่พบสาเหตุในการเกิดที่แน่ชัด สำหรับบทความต่อไปเรามาทำความรู้จักกับรอยแผลเป็นจากสิวประเภทต่างๆ กันบ้างนะคะ เริ่มกันที่บทความ “หลุมสิว รอยแผลเป็นจากสิว”