Open on Mon – Fri 09:00-18:00

facebook technicalbiomed
งานวิจัย การ combined นวัตกรรม Legacy กับเทคโนโลยี Cryolipolysis เพื่อลดไขมันและความหย่อนคล้อยบริเวณสะโพก

ผลการ Combined เครื่อง Legacy กับเทคโนโลยีความเย็นเพื่อลดสัดส่วน

งานวิจัย การ combined นวัตกรรม Legacy กับเทคโนโลยี Cryolipolysis เพื่อลดไขมันและความหย่อนคล้อยบริเวณสะโพก

ผลการผสานเทคโนโลยีความเย็น และ Multi-Polar RF ร่วมกับ VariPulse Technology เพื่อการกำจัดไขมัน

เคยสงสัยหรือไม่ ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร? หากทดลอง Combined เครื่อง “Venus Legacy”  ซึ่งมี Multi-Polar RF พร้อมกับ VariPulse Technology ที่สามารถสลายไขมันได้ 4 มิติ ช่วยให้คนไข้มีสัดส่วนที่เข้ารูปสวยงาม และตึงกระชับขึ้นอย่างน่าพึงพอใจ ร่วมกับ “เทคโนโลยีความเย็นเพื่อกำจัดไขมัน”

ในบทความนี้ เราได้แปลมาจากเอกสารที่วิจัยโดย The Journal of Drugs in Dermatology (JDD) และเผยแพร่ในหัวข้อ “Prospective Internally Controlled Blind Reviewed Clinical Evaluation of Cryolipolysis Combined With Multipolar Radiofrequency and Varipulse Technology for Enhanced Subject Results in Circumferential Fat Reduction and Skin Laxity of the Flanks”  ซึ่งมีเนื้อหาโดยย่อ ดังต่อไปนี้

การศึกษาทางคลินิกเพื่อประเมินผลของการทำ Cryolipolysis ร่วมกับ Multipolar Radiofrequency พร้อม Varipulse Technology เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในการลดสัดส่วนและลดความหย่อนคล้อยบริเวณสะโพกด้านข้างของร่างกาย

การปรับรูปร่างและกระชับผิวพรรณด้วยวิธี non-invasive กำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้นในตลาดด้านความงาม จนนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่หลากหลาย เช่น การใช้อัลตร้าซาวด์ , คลื่นความถี่วิทยุ หรือการใช้ความเย็นในการกำจัดไขมัน นอกเหนือจากนี้ยังมีแนวโน้มที่ผสานนวัตกรรมอันหลากหลายเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของพลังงานนำไปสู่ผลลัพธ์ในการลดความหย่อนคล้อยของผิวร่วมกับการลดไขมันกระชับสัดส่วน พร้อมความพึงพอใจของคนไข้ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของงานวิจัย เพื่อศึกษาถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยี Cryolipolysis ตามด้วยการใช้เทคโนโลยี Mulitpolar RF ร่วมกับ PEMF และเพิ่ม Pulsed suction ที่สามารถปรับจังหวะได้ ในการเพิ่มความกระชับของผิวบริเวณสะโพกด้านข้างของร่างกายหลังการกำจัดไขมันด้วยความเย็น

 

ด้วยการคัดเลือกอาสาสมัครจำนวน 10 คน ที่มีไขมันสะสมบริเวณสะโพกด้านข้างของร่างกาย ซึ่งทุกคนจะได้รับการรักษาด้วย Cryolipolysis หลังจากนั้นสุ่มอาสาสมัครเป็นสองกลุ่ม เพื่อทำการรักษาด้วย radiofrequency + PEMF สองครั้ง (เว้นระยะห่างกันสองสัปดาห์) ตามด้วยการรักษาด้วย radiofrequency + PEMF พร้อมเพิ่ม pulsed suction อีกสองครั้ง (เว้นระยะห่างกันสองสัปดาห์) มีการเก็บผลโดยการถ่ายภาพอาสาสมัคร ทั้งก่อนทำการรักษา, หนึ่งสัปดาห์, 3 เดือน และ 6 เดือนหลังทำการรักษา และประเมินผลโดยการใช้มาตรฐาน GAI ด้วยการใช้ Blind review และ Un-blind review ร่วมกับการบันทึกผลข้างเคียงและบันทึกระดับความพึงพอใจของอาสาสมัครในทุกครั้งของการเก็บผล

 

การวิเคราะห์ผลจาก Blind investigator เผยผลการวิจัยว่า GAI scale ในผู้ที่ได้รับการรักษาแบบผสมผสาน (Cryolipolysis + RF / PEMF / Suction) นั้นผิวหนังมีความยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 1 ระดับ เมื่อเทียบกับการรักษาด้วย Cryolipolysis เพียงอย่างเดียว และผลจาก Unblind investigator อธิบายว่าผู้ที่ได้รับการรักษาแบบผสมผสาน มีผลลัพธ์ด้านความยืดหยุ่นของผิวเพิ่มขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับการรักษาด้วย Cryolipolysis เพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมวิจัยกว่า 50% มีความพึงพอใจถึงผลลัพธ์ที่ได้ และมีความพึงพอใจต่อผลลัพธ์ด้านที่ได้รับการรักษาแบบผสมผสานสูงกว่าอีกหนึ่งด้านถึง 10% อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ไม่มีการรายงานถึงผลข้างเคียงที่รุนแรงตลอดการศึกษา

 

ดังนั้น จากผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า การใช้เทคโนโลยี Multipolar RF กับ PEMF ร่วมกับแรงดูดที่เฉพาะตัวของเครื่อง Venus Legacy ร่วมกับการทำ Cryolipolysis ให้ผลลัพธ์ในการเพิ่มความกระชับของผิวหลังการกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณสะโพกด้านข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งเป็นวิธีการที่ปลอดภัย ไม่เจ็บไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง ทั้งยังเพิ่มความพึงพอใจของผู้เข้ารับการรักษาได้อย่างมีนัยสำคัญ

สามารถดาวน์โหลดงานวิจัยฉบับเต็มได้ที่ด้านล่างนี้

Paper Legacy

FREE DOWNLOAD

Send download link to:

Reference :
Julius F, Michael G, Neil S, Prospective Internally Controlled Blind Reviewed Clinical Evaluation of Cryolipolysis Combined With Mulitpolar Radiofrequency and Varipulse Technology for Enhanced Subject Results in Circumferential Fat Reduction and Skin Laxity of the Flanks, J. Drugs Dermatol 2016; 15: 1354-1358

งานวิจัย 1060 nm diode laser for fat reduction

งานวิจัย 1060 nm Diode Laser for Fat Reduction

งานวิจัย 1060 nm diode laser for fat reduction

งานวิจัย 1060 nm Diode Laser for Fat Reduction

หนึ่งในงานวิจัยที่ชี้ชัดว่าการใช้ Diode Laser ที่ความยาวคลื่น 1060 nm สามารถกำจัดไขมันบริเวณหน้าท้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น ทั้งยังมีความปลอดภัยสูงต่อทุกประเภทผิว ทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่อง WarmSculpting with SculpSure ซึ่งเป็นเครื่องไดโอดเลเซอร์ที่ใช้ความยาวคลื่น 1060 นาโนเมตร สามารถกำจัดไขมันดื้อด้านได้อย่างมีประสิทธภาพ อย่างแท้จริง

โดยในบทความนี้ เราได้แปลมาจากเอกสารที่วิจัยโดย The Journal of Drugs in Dermatology (JDD) และเผยแพร่ในหัวข้อ “Safety and Efficacy of a Non-Invasive 1060 nm Diode Laser for Fat Reduction of the Abdomen” ซึ่งมีเนื้อหาโดยย่อ ดังต่อไปนี้

ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของไดโอดเลเซอร์ 1060 นาโนเมตร สำหรับการรักษาการลดไขมันที่บริเวณหน้าท้อง

การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเป็นที่ทราบกันดี ว่าสามารถนำไปสู่การเสียฟังก์ชั่นการทำงานของเซลล์ไขมันจนเกิดการตาย (Apoptosis) ได้ โดยในงานวิจัยนี้เป็นการประยุกต์ใช้เลเซอร์ความยาวคลื่น 1060 นาโนเมตร ส่งพลังงานผ่านทางผิวหนังเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตายของเซลล์ไขมันบริเวณท้องอย่างถาวร

 

ซึ่งวิจัยโดยการทดลองกับอาสาสมัคร 35 คน ที่เข้ารับการรักษาด้วยเลเซอร์ 1060 นาโนเมตร ร่วมกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่กันตลอดระยะการวิจัย และการเก็บผลเพื่อเปรียบเทียบผลก่อนทำการรักษา, 6 สัปดาห์ และ 12 สัปดาห์หลังการรักษา ด้วย 3 วิธีการ ดังนี้

  • การถ่ายภาพ Ultrasound เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงความหนาของไขมัน
  • การถ่ายภาพสองมิติความละเอียดสูง และประเมินผลโดย Blind evaluator จากแพทย์ผิวหนัง 3 ท่านที่ได้รับการอบรมและผ่านการรับรองจากทางสมาคม
  • การบันทึกน้ำหนัก

ผลการวิจัยระบุว่า 23% ของอาสาสมัครมีประเภทผิวตาม Fitzpatrick ประเภท 4-6 โดยการทดลองด้วยวิธี Blind evaluator มีความแม่นยำสูงถึง 95% (ตามระยะเวลา คิดเป็น 88% , 97% และ 100% ตามลำดับ) และความหนาของชั้นไขมันมีค่าเฉลี่ยที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (P <0.001) โดยผลเมื่อเทียบกับ 6 สัปดาห์ (ค่าลดลง 1.5 ± 1.23 mm) และผลเทียบ 12 สัปดาห์ (ค่าลดลง 2.65 ± 1.41 mm) พร้อมค่าเฉลี่ยของน้ำหนักที่เปลี่ยนไปอยู่ที่ +0.1 Ib โดยผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นมีเพียงอาการแดงเล็กน้อย ร่วมกับการตึงบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งจะหายได้เองภายใน 1-3 สัปดาห์  

 

ผลการทดลองที่ได้นั้นสามารถสรุปได้ว่า การรักษาด้วยเลเซอร์ความยาวคลื่น 1060 นาโนเมตร สามารถกำจัดไขมันบริเวณท้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยสูงต่อทุกประเภทผิว โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น

สามารถดาวน์โหลดงานวิจัยฉบับเต็มได้ที่ด้านล่างนี้

Paper SculpSure

FREE DOWNLOAD

Send download link to:

Reference :
Lawrence S.,Sean T, Sean T.Doherty, Safety and Efficacy of a Non-Invasive 1060 nm Diode Laser for Fat Reduction of the Abdomen, J. Drugs Dermatol 2018; 17: 106-112