Open on Mon – Fri 09:00-18:00

facial treatment การดูแลผิวที่ดี เริ่มต้นที่การทำความสะอาด

3 วิธีเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าและผิวกาย บอกลาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ 

3 วิธีเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าและผิวกาย บอกลาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ

facial treatment การดูแลผิวที่ดี เริ่มต้นที่การทำความสะอาด

การดูแลผิวที่ดี เริ่มต้นที่การทำความสะอาด

การทำความสะอาดผิวหน้าเป็นพื้นฐานในการดูแลผิวให้มีสุขภาพดี แต่กลับเป็นขั้นตอนที่หลายคนมักละเลยและให้ความสำคัญน้อยที่สุด โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีมลภาวะ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก เช่น PM2.5 แพร่กระจายอยู่ในอากาศเป็นจำนวนมาก การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธีจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการดูแลผิวหน้าให้แข็งแรงและสุขภาพดี

 

การล้างหน้านั้นไม่ใช่เพียงแค่การทำความสะอาดผิวชั้นนอกเท่านั้นแต่ควรที่จะสามารถลงไปขจัดความมัน สิ่งอุดตันภายในรูขุมขน รวมถึงการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปได้ด้วย เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นละอองในรูขุมขนซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว และยังช่วยในการเตรียมผิวหน้าสำหรับการบำรุงผิวในขั้นตอนถัดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รวม 3 ตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว​

นอกจากการทำความสะอาดแล้ว การบำรุงและปกป้องผิวก็ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดูแลผิวเช่นกัน ซึ่งมีตัวเลือกที่หลากหลายมากในปัจจุบัน ทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้หน้า การรับประทานทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมเพื่อบำรุงผิวพรรณโดยเฉพาะ หรือการทำทรีตเมนต์ผิวหน้ากับคลินิกเสริมความงาม ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือคาดหวังผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชัดเจนกว่าการดูแลผิวด้วยตนเอง

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว​

หลังการทำความสะอาดผิวอาจก่อให้เกิดการสูญเสียความชุ่มชื้นไปได้บางส่วน การเลือกใช้ครีมบำรุงที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นคืนสู่ผิวจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น นอกจากนั้นการโดนแดดยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น การทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอจึงสามารถช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวและป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวได้อีกด้วย

อาหารเสริมบำรุงผิว

การรับประทานทานอาหารเสริมสามารถเข้าไปกระตุ้นกระบวนการธรรมชาติในการทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นขึ้นได้ โดยเฉพาะอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของวิตามินซี ซึ่งจะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ผิวดูกระชับเต่งตึงมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและแสง UV ได้อีกด้วย

ทรีตเมนต์บำรุงผิว

เครื่องทรีตเมนต์หน้านั้นมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบในคลินิก ทั้งการใช้เครื่องนวดพิเศษเพื่อช่วยให้สามารถผลักวิตามินหรือสารบำรุงให้ซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ดียิ่งขึ้น หรือการใช้เครื่องทรีตเมนต์ที่พ่นสารบำรุงออกมาเป็นละอองฝอยเล็ก ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมเข้าสู่ผิวและให้ผลลัพธ์ในการบำรุงผิวที่ดีมากยิ่งขึ้น

Hydrafacial เครื่องทรีตเมนต์หน้า ช่วยทำความสะอาดและบำรุงผิวอย่างล้ำลึก

สิ่งที่ทำให้เครื่อง Hydrafacial โดดเด่นและแตกต่างจากเครื่องทรีตเมนต์ผิวหน้าชนิดอื่น ๆ ในท้องตลาด เพราะเป็น Facial treatment ที่สามารถทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกแต่อ่อนโยนไปพร้อม ๆ กับการผลักสารสกัดบำรุงผิวหน้าเข้มข้นเข้าสู่ผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกด้วย Vortex Fusion Technology เทคโนโลยีพลังน้ำวนที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนพร้อมทั้งขจัดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนได้อย่างสะอาดหมดจดพร้อมกับเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าได้ในเวลาเดียวกัน ทั้งยังมีขั้นตอนเสริมสำหรับการทำ Lymphatic Treatments และ LED Light Therapy ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและบำรุงผิวหน้าให้ดียิ่งขึ้น

 

3 ขั้นตอนสู่ผิวหน้าสุขภาพดี ด้วย Hydrafacial

 

  • Cleanse and Peel ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก  

ขั้นตอนแรกในการท Facial treatment ด้วยเครื่อง Hydrafacial คือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึกด้วย Activ-4 สารสกัดพิเศษ ที่สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปอย่างอ่อนโยนเพื่อให้สารสกัดอื่น ๆ สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับ Glysal หรือ Chemical Peel ที่ประกอบไปด้วยกรด AHA และ BHA จึงช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันภายในรูขุมขนให้สามารถหลุดออกไปได้ง่ายขึ้นในขั้นตอนถัดไปโดยไม่ก่อให้เกิดความระคายเคือง

 

  • Extract and Hydrate ขจัดสิ่งสกปรกจากรูขุมขน พร้อมเติมเต็มความชุ่มชื้น  

ในขั้นตอนที่สองคือการดูดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนด้วย Beta-HD สารสกัดเฉพาะที่สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปได้อย่างอ่อนโยน พร้อมทั้งเติมความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว ช่วยลดการระคายเคืองจากการผลัดเซลล์ผิว จึงปลอดภัยแม้กับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หลังจากขั้นตอนนี้ผิวจะสะอาดหมดจด และพร้อมรับการบำรุงด้วยสารสกัดที่จำเป็นต่อผิวในขั้นตอนถัดไป

 

  • Fuse and Protect บำรุงผิวด้วยสารสกัดเข้มข้นและปกป้องผิวจากมลภาวะ

ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำทรีตเมนต์ คือการเติมเต็มสารสกัดเข้มข้นที่จำเป็นต่อผิวด้วย Boosters หรือ Serum สูตรเฉพาะจาก Hydrafacial ที่มีความหลากหลายและสามารถเลือกตามปัญหาผิวที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการลดเลือนจุดด่างดำ การเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวเต่งตึง หรือ ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย หลังจากนั้นจึงใช้ Anitox+ ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ผิวตึงกระชับ และ เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว นอกจากนั้นยังช่วยในการกักเก็บสารบำรุงที่เพิ่งถูกเติมเต็มเข้าสู่ผิวและปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอก ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานมากขึ้น 

เจาะลึก สารสกัดสำคัญใน BOOSTERS​

Britenol ลดเลือนจุดด่างดำ เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว


Alpha-Arbutin : มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการผลิตของเม็ดสีเมลานิน ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ และรอยดำหลังการอักเสบ (PIH) ทำให้ผิวดูสว่างและกระจ่างใสขึ้น  


Bearberry Extract : สารสกัดจากแบร์เบอร์รี่ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ลดการอักเสบและรอยแดงจากสิว ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและสุขภาพดี นอกจากนั้นยังสามารถช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน สาเหตุของฝ้า กระ จุดด่างดำ จึงเป็นสารสกัดสำคัญที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้


Vitamin C : สารต้านอนุมูลอิสระ ลดเลือนริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

 

Regen GF กระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูผิว ลดเลือนริ้วรอย


Heptapeptide 34 : เป็นเปปไทด์ที่มีประสิทธิภาพ ในการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ซึ่งช่วยลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น


Copper Tripeptide-1 : เปปไทด์ที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และฟื้นฟูผิว ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นและหลุมสิว ทำให้ผิวเรียบเนียนและดูมีสุขภาพดี


Palmitoyl Tripeptide -1 :  ช่วยกระตุ้นและป้องกันการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวตึงกระชับ ช่วยลดเลือนริ้วรอยและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น


Dermabuilder ผิวแข็งแรง สุขภาพดี ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย


SYN-TACKS : เปปไทด์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ทำให้ผิวมีความกระชับและเต่งตึง ซึ่งส่งผลให้ริ้วรอยลดลงและผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยเสริมให้ Dermal-Epidermal Junction (DEJ) ซึ่งเป็นชั้นรอยต่อระหว่าง Epidermis และ Dermis แข็งแรงขึ้น  ทำให้กระบวนการซ่อมแซมผิวและลดริ้วรอยในร่างกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผิวจึงมีความยืดหยุ่น ตึงกระชับ ริ้วรอยแห่งวัยดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด


SNAP – 8 : นวัตกรรมเปปไทด์โมเลกุลเล็กที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดการหดตัวของกล้ามเนื้อที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของใบหน้า ช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น ผิวกระชับเต่งตึง ดูเรียบเนียนขึ้น


Hydrafacial ยังได้มีการทำ Brand Collaboration ร่วมกับแบรนด์ชื่อดังต่าง ๆ กว่า 16 แบรนด์ เช่น Dior, JLO BEAUTY®, Murad และ ZO Skin Health ในการออกแบบ Boosters ที่หลากหลายมากขึ้น เครื่อง Hydrafacial จึงเป็นเครื่องทรีตเมนต์หน้าที่สามารถมอบประสบการณ์ รักษาปัญหาผิวได้ครอบคลุมและตรงตามความต้องการของผู้ใช้บริการในปัจจุบัน 

Potenza Microneedling 4 Mode ยกกระชับผิวหน้า ลำคอ

Potenza นวัตกรรม Microneedling 4 Mode ตอบโจทย์เรื่องยกกระชับผิวหน้าและลำคอ

Potenza นวัตกรรม Microneedling 4 Mode ตอบโจทย์เรื่องยกกระชับผิวหน้าและลำคอ

Potenza Microneedling 4 Mode ยกกระชับผิวหน้า ลำคอ

ปัญหาผิวหย่อนคล้อย” จุดเริ่มต้นของเทรนด์ยกกระชับในปี 2024

ปัญหาผิวหย่อนคล้อย เป็นปัญหาด้านความงามที่กำลังได้รับความสนใจ เนื่องจากเทรนด์ความงามที่มีความเปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน จากที่เน้นให้ความสำคัญกับการมีผิวขาวกระจ่างใสเป็นส่วนมาก แต่ทุกวันนี้ผู้คนเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องรักษาปัญหาผิวโดยเน้นความกระชับและเรียบเนียนของผิวมากยิ่งขึ้น ผิวที่เรียบเนียน ไร้ริ้วรอย รอยย่น ดูอ่อนกว่าวัย กลายเป็นสุขภาพผิวในอุดมคติที่ทุกคนคาดหวังไปแล้ว 

ปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อย

การฟื้นฟูผิวหย่อนคล้อย หรือรักษาปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียน รวมถึงริ้วรอย (Wrinkles) ต่าง ๆ เป็นสิ่งที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญและอยากจะแก้ปัญหาให้ได้ก่อนจะสายเกินไป โดยเฉพาะเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวหน้าเริ่มเสื่อมสภาพ การผลิตคอลลาเจนในผิวลดลงไปในแต่ละปี ส่งผลให้เกิดริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย และผิวที่ไม่เรียบเนียนมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากปัจจัยในเรื่องของอายุและสุขภาพผิวที่ถดถอยลงไปตามวัยแล้ว ปัจจัยภายนอกอย่างสภาพอากาศ สภาพแวดล้อม ก็เป็นอีกเรื่องสำคัญที่อาจส่งผลต่อสภาพผิวได้เช่นเดียวกัน  

ดูแลตัวเองเบื้องต้น กู้ผิวเนียนสวยง่าย ๆ ด้วยตัวเรา

หลายคนอาจเลือกวิธีการดูแลและรักษาปัญหาผิวขั้นพื้นฐานด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว เช่น เรตินอล (Retinol), วิตามินซี (Vitamin C), ไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid), และเปปไทด์ (Peptides) ซึ่งสามารถช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนและกระชับขึ้นได้ การใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นประจำทุกวันจะช่วยเสริมสร้างการฟื้นฟูผิวในระยะยาวและคงความอ่อนเยาว์ให้กับผิว นอกจากการดูแลผิวหน้าจากภายนอกและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ จำพวกมลภาวะและแสงแดด รวมถึงความเครียด การแสดงอารมณ์ทางสีหน้าที่มากเกินไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดริ้วรอยต่าง ๆ แล้ว การดูแลสุขภาพจากภายในก็มีความสำคัญ การดื่มน้ำเยอะ ๆ  รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยให้ผิวหน้าดูสุขภาพดีและกระชับเรียบเนียนขึ้นได้เช่นเดียวกัน

วิธีฟื้นฟูผิวหย่อนคล้อย รักษาปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียนด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์

ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์และนวัตกรรมการดูแลผิวต่าง ๆ ที่มีความก้าวหน้า ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เราจึงมีตัวเลือกที่สามารถรักษาปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย รวมถึงฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมากระชับเรียบเนียนได้อย่างหลากหลาย เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำเลเซอร์ (Laser Treatment), ฉีดโบท็อกซ์ (Botox) และฟิลเลอร์ (Filler) หรือ การยกกระชับด้วยเครื่อง Microneedling RF เป็นต้น

  

1.การทำเลเซอร์ (Laser Treatment)  

เลเซอร์สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้ากระชับขึ้น ลดริ้วรอย และทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น เทคโนโลยีเลเซอร์ที่มีในปัจจุบันมีหลายประเภท เช่น เลเซอร์ Erbium หรือเครื่อง Picosure ซึ่งเป็น Picosecond Laser 755nm ที่สามารถใช้ในการฟื้นฟูผิว (Rejuvenation) ได้เช่นเดียวกัน

 

2. การฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ 

การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) และฟิลเลอร์ (Filler) เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่สามารถช่วยลดริ้วรอยและเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของผิวหน้าได้ โบท็อกซ์ทำงานโดยการยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อที่มักใช้ในการแสดงสีหน้า ทำให้ริ้วรอยดูเรียบเนียนขึ้น ส่วนฟิลเลอร์เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในผิวหนังเพื่อเติมเต็มใบหน้าส่วนที่ยุบลง เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก เป็นอีกหัตถการหนึ่งที่ช่วยปรับรูปหน้า ทำให้ผิวหน้าดูเต็มและกระชับขึ้น ถือเป็นตัวเลือกที่หลายคนเลือกใช้ในการลดริ้วรอยและร่องลึกต่าง ๆ ที่เป็นตัวการที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุได้

 

3. การรักษาปัญหาผิวและฟื้นฟูผิวหย่อนคล้อยด้วยเครื่อง Microneedling RF 

ในปี 2024 การรักษาปัญหาผิวหย่อนคล้อย ลดเลือนริ้วรอย และฟื้นฟูสภาพผิวโดยรวมด้วยเครื่อง Microneedling RF เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการฟื้นฟูผิวหน้า เนื่องจากสามารถให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และฟื้นฟู ยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้น และมีการจัดเรียงตัวของคอลลาเจนที่สวยงามมากขึ้น ทำให้ผิวหน้ากลับมากระชับ เรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์ อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ดีในการแก้ปัญหาผิวในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งด้วยความนิยมและนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาขึ้น เครื่อง Microneedling บางตัวยังมีเทคโนโลยีและฟังก์ชันที่สามารถปรับได้หลากหลายเพื่อให้เหมาะกับสภาพผิว และความต้องการของแต่ละบุคคลได้ ตอบโจทย์ทั้งแพทย์ผู้ให้การรักษาและผู้เข้ารับบริการ เพื่อให้การรักษาปัญหาผิวและการฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อยได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากที่สุด เช่น เครื่อง Potenza จากแบรนด์ Cynosure ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเครื่อง Microneedling RF ที่สามารถปรับการตั้งค่าได้อย่างหลากหลายมากถึง 4 โหมด เป็นต้น  

Potenza เครื่อง Microneedling RF สำหรับรักษาปัญหาผิวและฟื้นฟูผิวหย่อนคล้อย

Potenza เป็นนวัตกรรม 4-Mode RF Microneedling เครื่องแรกของโลก ที่รวบรวมทั้ง Monopolar และ Bipolar RF ความถี่ 1&2 MHz เอาไว้ภายในเครื่องเดียว เป็นเครื่อง Microneedling RF ที่ได้รับการยอมรับว่าถูกยกระดับนวัตกรรมมาเพื่อช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวทุกส่วนได้อย่างละเอียด แม่นยำ และครบวงจร สามารถปรับการตั้งค่าและออกแบบการรักษาได้กับทุกสภาพผิว ครอบคลุมปัญหาผิวตั้งแต่ระดับตื้นไปจนถึงระดับลึก ซึ่งมีความแตกต่างจากเครื่อง Microneedling รูปแบบเดิม ๆ ในท้องตลาด นำมาซึ่งผลการรักษาที่รวดเร็วและได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญยังก่อให้เกิด Downtime ที่น้อยภายหลังการรักษา ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันปกติได้อย่างรวดเร็ว  
  • ยกกระชับความหย่อนคล้อย
  • ฟื้นฟูผิวหน้า ให้ผิวสัมผัสเนียนนุ่ม
  • ทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย
  • กระชับรูขุมขน
  • แก้ปัญหาหลุมสิว และจุดด่างดำ
  • ลดเลือนริ้วรอย (Face wrinkles) ต่าง ๆ

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ขั้นสูง สร้างผลลัพธ์ธรรมชาติและยาวนาน

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ขั้นสูง สร้างผลลัพธ์ธรรมชาติและยาวนาน

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ขั้นสูง สร้างผลลัพธ์ธรรมชาติและยาวนาน

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ขั้นสูง สร้างผลลัพธ์ธรรมชาติและยาวนาน

ฟิลเลอร์คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ หรือ Dermal Filler เป็นสารเติมเต็มด้านความงามที่นิยมใช้ในการปรับรูปหน้าและเติมเต็มร่องลึก มีส่วนผสมหลักเป็นกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) หรือ “HA” โดยแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติที่แต่งต่างกัน ทั้งขนาดโมเลกุลของสาร HA ความหนืดของเนื้อเจล รวมไปถึงการเพิ่มสารสกัดอื่น ๆ เข้ามาเพื่อเสริมประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ให้ครอบคลุมการรักษาอื่น ๆ ได้มากขึ้น ซึ่งแพทย์สามารถเลือกใช้ฟิลเลอร์แต่ละชนิดในส่วนต่างๆ ของใบหน้าได้ตามความต้องการ 

ฟิลเลอร์นิยมนำไปรักษาอะไรบ้าง ?

ลดเลือนริ้วรอยและเติมเต็มร่องลึกเมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังบนใบหน้าจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินไปตามธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดริ้วรอยและร่องลึกได้ในบางบริเวณ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้าและอาจทำให้ดูแก่กว่าวัยได้ การเติมเต็มในจุดสำคัญต่าง ๆ ด้วยฟิลเลอร์ เช่น หน้าแก้ม ขมับ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และใต้ตา สามารถช่วยฟื้นฟูความอวบอิ่มของผิว เพิ่มมิติให้กับใบหน้า และทำให้ใบดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ 

 

ปรับกรอบหน้าให้คมชัด 

 

ฟิลเลอร์สามารถนำไปใช้ในการปรับโครงหน้าให้มีความคมชัดขึ้นได้ โดยเฉพาะในบริเวณกราม ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมกรอบหน้าให้ชัดเจนเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง และช่วยเพิ่มความสมดุลให้กับโครงหน้าได้อีกด้วย 

 

 เติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม 

 

นอกจากใบหน้าแล้ว ริมฝีปากก็เป็นอีกบริเวณที่อาจดูเล็กลงและสูญเสียความชุ่มชื้นได้เมื่ออายุมากขึ้น นอกจากฟิลเลอร์จะสามารถเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปากได้แล้ว ยังช่วยเสริมกรอบปากให้ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถนำไปแก้ไขในผู้ที่มีขนาดของริมฝีปากที่ไม่สมดุลกัน รวมถึงสาร HA ในฟิลเลอร์ยังสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากได้อย่างต่อเนื่อง การฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นอีกหนึ่งในทางเลือกที่ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม อ่อนเยาว์ และดูสุขภาพดีมากขึ้น  

 

 ปรับสภาพผิวให้แข็งแรง 

 

ในปัจจุบัน ฟิลเลอร์ได้รับการพัฒนาขึ้นให้สามารถปรับปรุงคุณภาพผิวได้ด้วย ซึ่งนอกจากการเติมเต็มในบริเวณที่ต้องการแล้ว ฟิลเลอร์บางชนิดยังมีความสามารถในการเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวมีความละเอียด เนียนนุ่ม รูขุมขนกระชับ และใบหน้าจะดูกระจ่างใสขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

The 3 Points Lips Technique เทคนิคใหม่ล่าสุดในการฉีดฟิลเลอร์ปาก

การฉีดฟิลเลอร์เป็นศาสตร์ด้านความงามที่แพทย์แต่ละคนจะมีเทคนิคการฉีดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งในอดีตการฉีดฟิลเลอร์ปากด้วยเข็มปลายทู่ (Cannula) นั้นมีข้อจำกัดในการออกแบบมากกว่าการใช้เข็มปลายแหลม ซึ่งล่าสุด Dr. Noury Adel แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์จากประเทศอียิปต์ ผู้เป็นวิทยากรและผู้สอนการฉีดฟิลเลอร์ด้วยเข็ม Cannula จากแบรนด์ SoftFil ได้คิดค้นการฉีดฟิลเลอร์ปากด้วยเทคนิคใหม่ ช่วยให้แพทย์สามารถใช้เข็ม Cannula ในการออกแบบรูปทรงของริมฝีปากที่ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการใช้เข็มปลายแหลม และยังคงสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างแม่นยำ ลดอาการบาดเจ็บ ลดระยะเวลาการพักฟื้น และได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ขั้นสูง สร้างผลลัพธ์ธรรมชาติและยาวนาน

เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ The 3 Points Lips Technique 

  1. ขีดเส้นตรงจากบริเวณปีกจมูกทั้งสองข้างและตรงกลางริมฝีปากเพื่อเป็น Guideline โดยหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์นอกบริเวณที่กำหนด  
  2. สร้างรูเดินเข็ม (Pilot hole) ที่จุด Glogau-Klein (GK) point ทั้งสองข้าง โดยเริ่มฉีดฟิลเลอร์ในลักษณะรูปใบพัดและค่อย ๆ ถอยเข็มกลับมายังจุด GK โดยฉีดเน้นในจุด GK ในขั้นตอนสุดท้าย 
  3. สร้าง Pilot hole ที่จุดกึ่งกลางของริมฝีปากล่างและฉีดถอยหลังออกมาในลักษณะรูปใบพัดจนทั่วบริเวณที่ต้องการ 
จุดที่ควรระวังและหลีกเลี่ยง 
 
  1. ร่องริมฝีปากบน (Philtrum) 
  2. ขอบปาก (Vermillion Border) 
  3. เส้นกึ่งกลางของริมฝีปากบน (The Mid-Line of the upper lip)
  4. เส้นขอบเขตของริมฝีปากด้านนอกและด้านใน (The wet-dry border) 

การเลือกเข็มฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์สามารถทำได้ทั้งการใช้เข็มฉีดฟิลเลอร์ปลายแหลม (Needle) และเข็มปลายทู่ (Cannula) ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน การใช้เข็มปลายแหลมให้ความแม่นยำสูงแต่เสี่ยงต่อการทำลายเส้นเลือดและเกิดรอยฟกช้ำ ส่วนเข็มปลายทู่มีความยืดหยุ่นมากกว่า ยังคงแม่นยำในการออกแบบรูปทรงริมฝีปาก และสามารถแทรกผ่านเนื้อเยื่อได้ดี จึงสามารถลดการบาดเจ็บได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับการให้เข็มปลายแหลม 

Softfil เข็มฉีดฟิลเลอร์คุณภาพสูง

เข็มฉีดฟิลเลอร์ Micro-cannula จากแบรนด์ SoftFil มีให้เลือกถึง 2 แบบ ทั้ง SoftFIl Precision และ SoftFIl Easy Guide นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยบริษัทเอสล่า จำกัด ได้รับการยอมรับจากแพทย์ชั้นนำทั่วโลก ด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงความสะดวกสบายของแพทย์ รวมถึงความปลอดภัยและความสบายของคนไข้ มีความหลากหลายในการใช้งาน ทั้งฉีดสาร HA ฉีดไขมัน และร้อยไหม ทำให้สามารถปรับโครงหน้าและเติมเต็มร่องลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 

 

SoftFIl Precision 

ชุดเข็ม Micro-cannula พร้อมตัวนำเข็มแบบดั้งเดิม มีข้อดีดังนี้: 

  • มีขีดบอกระยะทุก ๆ 1 ซม. บนตัวเล่มเข็ม ช่วยให้หมอสามารถระบุตำแหน่งของปลายเข็มได้อย่างแม่นยำ 
  • เข็มทำจาก Stainless steel เคลือบซิลิโคน ทำให้เข็มสามารถลัดเลาะเข้าไปในผิวได้อย่างลื่นและนุ่มนวล ลดความเจ็บปวดได้ดี
  • ฐานเข็มแบบ Luer Lock ออกแบบพิเศษ เพื่อยึดเข็มเข้ากับไซริงได้โดยไม่หลุด
  • มีขนาดและความยาวเข็มให้เลือกหลายขนาด เหมาะกับการใช้งานในทุกบริเวณบนใบหน้าและเรือนร่าง
  • มีจุดสีแดงบอกทิศทางของรูเข็ม ช่วยให้กำหนดสามารถทิศทางการฉีดได้อย่างตรงจุด 
SoftFIl Easy Guide  
เข็มฉีดฟิลเลอร์ Micro-cannula ตัวนำเข็ม Pilot Needle รูปแบบใหม่รูปทรงตัว V มีลักษณะเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของเข็ม ซึ่งทำให้สามารถสร้าง Pilot hole สำหรับเดินเข็มพร้อมกับการสอดเข็มเข้าสู่ผิวได้ภายในขั้นตอนเดียว ทำให้การฉีดสารเติมเต็มต่าง ๆ บนใบหน้าและเรือนร่างมีความแม่นยำมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้เข็มสะกิดผิวเพื่อขยายรูเดินเข็ม ช่วยลดการบาดเจ็บ สะดวกต่อการใช้งาน และปลอดภัยต่อคนไข้

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

การรักษาหลุมสิวด้วยเครื่องมือแพทย์ความงาม Aesla

จบปัญหาหลุมสิว ผิวหน้าไม่เรียบเนียน ด้วยนวัตกรรมรักษาหลุมสิว 2024

จบปัญหาหลุมสิว ผิวหน้าไม่เรียบเนียน ด้วยนวัตกรรมรักษาหลุมสิว 2024

การรักษาหลุมสิวด้วยเครื่องมือแพทย์ความงาม Aesla

“สิว” ปัญหากวนใจของใครหลาย ๆ คน ที่แม้จะรักษาจนหายแล้วแต่ก็ยังคงทิ้งไว้ทั้งรอยดำ รอยแดง และรอยหลุมสิว ที่ใช้เวลาในการรักษาให้หายนานกว่าและยากกว่าการรักษาสิวเสียอีก โชคดีที่ในปัจจุบัน นอกจากครีมบำรุงแล้ว ยังมีเครื่องมือแพทย์ความงาม (Aesthetic equipment) ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยรักษาหลุมสิวอย่างได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และเห็นผลชัดเจน 

รอยสิวเกิดจากอะไร?

รอยสิวจะเกิดขึ้นหลังจากจบกระบวนการรักษาตัวเองของผิวเมื่อเกิดรอยแผลจากสิวอักเสบ ซึ่งสิวอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น กรรมพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และการอุดตันของรูขุมขน เมื่อสิวอักเสบเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ร่างกายจะกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมตัวเองโดยการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่เพื่อซ่อมแซมผิว ซึ่งในบางครั้งเส้นใยคอลลาเจนที่สร้างขึ้นมานั้นอาจมีลักษณะที่แข็งและยึดติดกันเป็นพังผืด ทำให้ผิวบริเวณนั้นถูกดึงรั้งและเกิดเป็นหลุมสิวขึ้น 

เครื่องรักษาหลุมสิวทำงานอย่างไร ?

ในปัจจุบัน มีเครื่องมือแพทย์ความงามหลายชนิดสามารถรักษาหลุมสิวได้ ทั้งการใช้เลเซอร์, คลื่นความถี่วิทยุ (RF) และ Microneedling ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน แต่หลักการรักษาก็ยังคงมีความคล้ายคลึงกันคือการส่งพลังงานลงไปกระตุ้นการสร้างของคอลลาเจนในผิวเพื่อให้เกิดเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาฟื้นฟูหลุมสิว ซึ่งสามารถทำได้โดยวิธีการที่ทำให้เกิดแผล (Ablative) และไม่เกิดแผล (Non-ablative) ผลลัพธ์ ความรู้สึกเจ็บ และการพักฟื้นจะแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของหลุมสิว สีผิว และสภาพผิวของผู้ป่วยอีกด้วย

รวม 3 นวัตกรรมรักษาหลุมสิว

1.NanoFractional RF
 

เทคโนโลยี NanoFractional RF เป็นรักษาหลุมสิวแบบ Ablative ทำงานโดยการส่งพลังงานความร้อนจากคลื่นความถี่วิทยุลงไปยังชั้นผิวเพื่อสร้างบาดแผลขนาดเล็ก ทำให้ร่างกายกระตุ้นกลไกการซ่อมแซมตัวเองโดยการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ หลุมสิวจึงถูกฟื้นฟูขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่อง Venus Viva MD ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวอย่างมีประสิทธิภาพแต่ต้องการระยะเวลาพักฟื้นที่น้อย ด้วยเทคโนโลยี SmartScan™ ที่สุ่มปล่อยพลังงานทีละจุดจากหัว Pin ทำให้การสะสมความร้อนในชั้นผิวลดลง แพทย์สามารถใช้พลังงานในการรักษาที่เข้มข้นขึ้นได้โดยไม่ต้องกังวลถึงความเสี่ยงที่จะเกิดการเบิร์นบนชั้นผิว ทำให้ Venus Viva MD เป็นเครื่องรักษาหลุมสิวที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสูง ผลข้างเคียงในการรักษาน้อย ปลอดภัย และมีระยะเวลาพักฟื้นเพียง 24 ชั่วโมง โดยคนไข้สามารถกลับไปบำรุงผิวหรือแต่งหน้าได้ตามปกติหลังการรักษา  

 

 

2. Microneedling RF

 

 

เทคโนโลยี Microneedling RF เป็นนวัตกรรมที่สามารถรักษาปัญหาผิวได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการรักษาหลุมสิว กระชับรูขุมขน และยกกระชับใบหน้า โดยเข็มของเครื่อง Microneedling RF จะปล่อยพลังงานลงไปยังชั้นผิวที่ต้องการ เพื่อกระตุ้นการสร้างและจัดเรียงใหม่ของคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้หลุมสิวถูกฟื้นฟูขึ้น นอกจากนี้ เข็มยังมีส่วนช่วยในการตัดพังผืดใต้หลุมสิว ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับการทำ Subcision ทำให้รอยหลุมสิวที่ถูกพังผืดดึงรั้งลงไปสามารถฟื้นฟูและกลับมาดูเรียบเนียนขึ้นได้ 

 

Potenza จากแบรนด์ Cynosure คือเครื่องมือแพทย์ความงามที่เรียกได้ว่าเป็น “The World’s First 4-Mode Microneedling RF” เนื่องจากเป็นเครื่องแรกและเครื่องเดียวในปัจจุบันที่สามารถปรับรูปแบบพลังงานของคลื่นได้ทั้งแบบ Monopolar และ Bipolar ทำให้สามารถเลือกความลึกของพลังงานที่ปล่อยลงไปยังผิวของคนไข้ได้ นอกจากนี้ยังสามารถปรับความถี่ได้ทั้ง 1MHz และ 2MHz เพื่อปรับระดับความเข้มข้นของพลังงาน ทำให้แพทย์สามารถออกแบบการรักษาได้อย่างหลากหลายตามปัญหาผิวที่คนไข้ต้องการรักษา 

 

 

3. Picosecond Laser 

 

 

เทคโนโลยี Picosecond Laser มีความโดดเด่นในการรักษารอยดำ ด้วยพลังงานของเลเซอร์ที่มีความเร็วสูง จึงสามารถทำให้เม็ดสีเมลานินแตกตัวออกเป็นขนาดที่เล็กมาก ๆ เพื่อให้ร่างกายสามารถกำจัดเม็ดสีเหล่านี้ออกไปตามธรรมชาติได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากการรักษาเม็ดสีเมลานินแล้ว Picosecond Laser ยังมีอุปกรณ์เสริมที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาหลุมสิวแบบ Non-ablative จึงไม่ก่อให้เกิดแผลเลือดออก เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นแต่ยังคงต้องการผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็ว 

 

 

PicoSure เป็นเครื่อง Picosecond Laser เครื่องแรกของโลกที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือแพทย์ความงามโดยเฉพาะ และยังเป็นเครื่องเดียวในปัจจุบันที่ใช้ความยาวคลื่น 755 นาโนเมตรจากแร่ Alexandrite ซึ่งเป็นความยาวคลื่นที่สามารถถูกดูดซึมได้ดีโดยเม็ดสีเมลานิน ช่วยลดรอยดำจากสิว รวมถึงฝ้า กระ และรอยดำอื่น ๆ นอกจากนี้ หัว Focus Lens Array ของ PicoSure ยังสามารถรักษาหลุมสิวได้ด้วยโดยการสร้าง LIOBs และส่ง PressureWave™ ลงไปกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวถูกฟื้นฟูขึ้นโดยไม่เกิดแผลในผิวชั้นบน ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อยและสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีหลังการรักษา ทำให้เครื่อง PicoSure ตอบโจทย์การรักษาทั้งหลุมสิว รอยดำ และรอยแดงจากสิวได้อย่างครบวงจรภายในเครื่องเดียว 

 

 

AESLA เป็นหนึ่งในผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ด้านความงามระดับโลก ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับเอเชีย ด้วยตัวเลือกเครื่องมือที่หลากหลายและล้ำสมัย จึงพร้อมตอบสนองทุกความต้องการของคลินิกความงามเพื่อให้แพทย์สามารถมอบการรักษาที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า

 

 

Potenza แก้ปัญหา ผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย

“ผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย” สาเหตุเกิดจากอะไร? แก้อย่างไรดี?

“ผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย” สาเหตุเกิดจากอะไร? แก้อย่างไรดี?

Potenza แก้ปัญหา ผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย

รอยสิวเกิดจากอะไร? ปัญหาผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย เกิดจากอะไรได้บ้าง?

1.การเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอีลาสติน  

 

เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและกระชับน้อยลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อยได้ง่ายขึ้น แต่บางทีปัญหาผิวหย่อนคล้อยก่อนวัยที่เกิดขึ้น อาจเป็นเพราะปัจจัยที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด อย่างเช่นพันธุกรรม โดยบางคนอาจมีพันธุกรรมที่ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยได้เร็วกว่าคนอื่น ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นเดียวกับการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอีลาสติน  

 

2. การสัมผัสแสงแดดมากเกินไปในชีวิตประจำวัน 

 

รังสี UV จากแสงแดดสามารถทำลายคอลลาเจนในผิวหนัง เพราะฉะนั้นการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานโดยไม่มีการป้องกันที่เพียงพอ ส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยได้ 

 

3.ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ 

 

ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอสามารถกระทบกระเทือนกระบวนการฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวดูเหนื่อยล้าและหย่อนคล้อยได้ เป็นปัจจัยหลักที่นอกจากจะทำให้ผิวหน้าดูทรุดโทรมกว่าปกติแล้ว ยังทำให้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยก่อนวัยอันควรอีกด้วย  

 

4.การสูบบุหรี่ 

 

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า การสูบบุหรี่มีโทษหลายอย่างต่อร่างกาย ซึ่งสารพิษในบุหรี่อย่างเช่น นิโคติน ยังสามารถลดการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน รวมถึงเพิ่มอัตราการเสื่อมสภาพ ทำให้ผิวดูแก่ก่อนวัยและเสียความยืดหยุ่น จนผิวหย่อนคล้อยได้อีกด้วย  

 

5.การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป  

 

เช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์สามารถทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและทำลายโครงสร้างของผิว ทำให้ผิวเสื่อมสภาพและหย่อนคล้อยได้ ไม่แปลกใจที่สายปาร์ตี้ เมื่อดื่มสุราหรือสูบบุหรี่จัด บวกกับการนอนดึกและพักผ่อนไม่เพียงพอ จะยิ่งทำให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากกว่าคนปกติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  

 

6.การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก 

 

การลดหรือเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว น้ำหนักเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อยมากกว่าที่ควรจะเป็นได้เช่นเดียวกัน  

เหตุผลของการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอีลาสติน

การเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอีลาสตินจนทำให้ผิวหย่อนคล้อย เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่พูดถึงไปแล้วอย่างเช่น อายุที่มากขึ้น, พันธุกรรม, รังสี UV จากแสงแดด, ความเครียด, พักผ่อนไม่เพียงพอ, การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, รวมไปถึงการขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการผลิตคอลลาเจน อย่างเช่น วิตามินซี โปรตีน และสารต้านอนุมูลอิสระ, การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในช่วงวัยหมดประจำเดือน ผู้หญิงจะมีการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ซึ่งฮอร์โมนนี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการผลิตคอลลาเจน หรือแม้กระทั่งมลภาวะในอากาศ เช่น ฝุ่นละอองและสารเคมี สามารถทำลายคอลลาเจนในผิวหนัง และทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายต่อโครงสร้างผิว เป็นต้น   

วิธีแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

วิธีการดูแลผิวแบบธรรมชาติ 

 

1.การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม  

 

2.หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดโดยไม่มีการป้องกัน  

 

3.งดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์  

 

4.การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วน 

 

5.การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  

 

6.การดูแลผิวด้วยการรับประทานอาหารเสริม  

 

การรักษาที่ใช้ตัวกระตุ้นหรือเทคโนโลยีเป็นตัวช่วย 

 

1. การยกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency, RF) 

 

2. การยกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ (Ultrasound Therapy) 

 

3. การฉีดฟิลเลอร์ (Dermal Fillers) 

 

4. การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) 

 

5. การร้อยไหม (Thread Lift) 

 

6. การทำเลเซอร์ยกกระชับผิว (Laser Skin Tightening) 

 

7. การทำทรีตเมนต์บำรุงผิวด้วยวิตามินและสารอาหาร (Facial Treatment) 

 

โดยในปัจจุบันยังมีพัฒนาการด้านนวัตกรรมเป็นอย่างมาก ทำให้เรามีตัวเลือกมากมาย สำหรับการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างมีผลลัพธ์ที่ดี รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ อาทิเช่น นวัตกรรม Potenza ซึ่งเป็น 4-Mode RF Microneedling เครื่องแรกของโลก เป็นต้น   

Potenza ตอบโจทย์การแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ด้วยเทคโนโลยี 4-Mode RF Microneedling

Potenza รวบรวมทั้ง Monopolar และ Bipolar RF ความถี่ 1&2 MHz  เอาไว้ภายในเครื่องเดียว ช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวทุกส่วนได้อย่างละเอียด แม่นยำ และครบวงจร  สามารถปรับการตั้งค่าและออกแบบการรักษาได้กับทุกสภาพผิว  ครอบคลุมปัญหาผิวตั้งแต่ระดับตื้นไปจนถึงระดับลึก ที่สำคัญหลังรับการรักษายังก่อให้เกิด Downtime น้อย ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน  

 

จากประสิทธิภาพในด้านการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้เทคโนโลยีของ Potenza ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของการ “Repair – Restore – Regenerate”  หรือก็คือ “การซ่อมแซม ฟื้นฟู และสร้างใหม่” ของคอลลาเจนและอีลาสตินตามกระบวนการธรรมชาติของผิว หลังจากที่ได้รับการรักษาโดย Potenza ผิวจึงถูกปลุกให้กลับมามีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ทำให้ผิวแลดูอ่อนกว่าวัย สามารถใช้ในการรักษาปัญหาผิวในด้านการยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างเฉพาะเจาะจง นอกจากนั้น Potenza สามารถตอบโจทย์ปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย คลายทุกความกังวลเรื่องผิวไม่กระชับ ขาดความเต่งตึง แก้ปัญหาหลุมสิว ทำให้ผิวเนียนนุ่มน่าหลงใหลอีกด้วย 

ผิวเรียบเนียน กลับมากระชับ จัดการได้ด้วย Potenza

ผิวเรียบเนียน กลับมากระชับ จัดการได้ด้วย Potenza

Potenza นวัตกรรมยกกระชับผิวหน้าที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาเรื่องผิว

ผิวเรียบเนียน กลับมากระชับ จัดการได้ด้วย Potenza

ทำความรู้จักกับ Potenza

Potenza เป็นเทคโนโลยีความงามในกลุ่มเครื่อง Microneedling นอกจากนั้นยังได้รับการยอมรับว่าเป็น “4-Mode RF Microneedling” เครื่องแรกของโลก ที่แบรนด์ Cynosure ยกระดับนวัตกรรมเครื่อง Microneedling ขึ้นมาอีกขั้น ทำให้ตอบโจทย์ในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาผิวของผู้ป่วยได้อย่างครอบคลุมหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถปรับการตั้งค่าและออกแบบการรักษาเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วยแต่ละคน จนในปัจจุบัน เครื่อง Potenza ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของเทคโนโลยีในกลุ่ม RF Microneedling ที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีไปทั่วโลก

RF Microneedling คืออะไร?

เทคโนโลยี RF Microneedling เป็นการนำ Radio Frequency หรือคลื่นความถี่วิทยุมาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือการแพทย์ในด้านความงาม โดยนำมาผสมผสานกับเทคโนโลยี Microneedling Therapy เพื่อการฟื้นฟูผิวหน้า ด้วยการปล่อยพลังงาน RF ลงไปที่ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน จึงถูกนำมาปรับใช้ในการยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย กระชับรูขุมขน ลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ แก้ปัญหาหลุมสิวบนใบหน้า ทำให้จุดด่างดำดูจางลง ปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส ผิวสัมผัสเนียนนุ่ม ฯลฯ ซึ่งเทคโนโลยีในกลุ่มเครื่อง Microneedling ถือว่าได้รับความนิยมในด้านความงามต่าง ๆ

4-Mode RF Microneedling คืออะไร?

สาเหตุที่ Potenza เป็นนวัตกรรมสำหรับการยกกระชับที่ได้รับความนิยม สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการฟื้นฟูผิวของคนไข้ได้อย่างน่าพึงพอใจ ครอบคลุมทุกปัญหาผิวตั้งแต่ระดับตื้นไปจนถึงระดับลึก เนื่องจากรวบรวมทั้ง Monopolar RF และ Bipolar RF ที่ปรับใช้ร่วมกับความถี่ 1&2 MHz เอาไว้ด้วยกันภายในเครื่องเดียว รวม ๆ แล้วจึงสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ถึง 4 โหมด

Bipolar RF

• ส่งพลังงาน RF แบบสองขั้ว โดยส่งพลังงานในพื้นที่เฉพาะเจาะจงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โฟกัสเฉพาะจุดได้ดี 

• การส่งพลังงานความร้อนในเนื้อเยื่อจะมีความเข้มข้นมาก แต่ลงได้ไม่ลึกเท่ารูปแบบ Monopolar RF

Monopolar RF

• ส่งพลังงาน RF แบบขั้วบวกขั้วเดียว (1 Electrode) โดยจะมี Plate (Ground Pad) ที่ทำหน้าที่เป็นขั้วลบ ติดกับตัวของผู้ป่วย

• การส่งพลังงานของคลื่นจะลงได้ในชั้นลึกและกว้างกว่ารูปแบบ Bipolar RF

การทำงานของเครื่อง Potenza

Bipolar RF

Potenza สามารถส่งคลื่นพลังงานความร้อนผ่าน Needle Tip ที่เป็นหัวเข็มขนาดเล็กจำนวนมากและมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัว ซึ่งมีความแตกต่างกับเทคโนโลยีความงามแบบเครื่อง Microneedling ทั่วไปในท้องตลาด ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย ปรับใช้เพื่อแก้ปัญหาผิวประเภทต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุมมากกว่า โดยนอกจาก Potenza จะเป็นเทคโนโลยี RF Microneedling ที่มี 4 โหมดเป็นตัวแรกและตัวเดียวของโลก ทางแบรนด์ Cynosure จากประเทศสหรัฐอเมริกา ยังได้ทำการออกแบบหัว Tip ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกัน หลากหลายมากถึง 10 รูปแบบ เช่น “Fusion Tip” หรือ CP-21 Tip ซึ่งเป็น Tip ที่สามารถส่งพลังงานความร้อนลงไปพร้อมกับ Dual-air ระบบแรงดูดและแรงผลัก เพื่อส่งผ่านตัวยาหรือสารละลายลงไปสู่ชั้นผิวหนังได้ลึกและดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีอีกหลาย Tip ที่ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป เช่น Unique Tiger Tip™ technology ที่มีลักษณะเฉพาะพิเศษ สามารถแก้ปัญหาและรักษาได้หลายชั้นผิวพร้อมกันในขั้นตอนเดียว หรือ Single Insulated needles tip ที่สามารถใช้งานเพื่อรักษาปัญหาสิวได้อย่างตรงจุด เป็นต้น

ผลลัพธ์หลังทำ Potenza

เนื่องจากเครื่อง Potenza กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินเพิ่มขึ้น จึงช่วยในเรื่องของการยกระดับผิวหน้าให้ดูแข็งแรงและมีความกระชับ นอกจากนั้นยังให้ผลลัพธ์ที่ดีในการแก้ปัญหาด้านความงามในหลาย ๆ เรื่องได้เป็นอย่างดี 

  • ยกกระชับความหย่อนคล้อย 
  • ฟื้นฟูผิวหน้า ให้ผิวสัมผัสเนียนนุ่ม
  • ทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย
  • กระชับรูขุมขน
  • แก้ปัญหาหลุมสิว และจุดด่างดำ
  • ลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ 
  • ปรับสภาพผิวให้แลดูกระจ่างใส

บริการหลังการขายจาก AESLA

ในประเทศไทย บริษัท เอสล่า จำกัด หรือ AESLA ผู้จำหน่ายเครื่องมือแพทย์ความงาม เป็นตัวแทนในการนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Cynosure อย่างเป็นทางการ โดยมีการบริการหลังการขายอย่างครบวงจร อีกทั้งยังมีการรับประกันคุณภาพ

 

ในด้านบริการหลังการขายของ AESLA มีการรับประกันคุณภาพอย่างเคร่งครัด ให้ความสำคัญกับการบริการรวมถึงการดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดย AESLA มี Clinical Specialist หรือผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับ Certificates โดยตรง มาช่วยสาธิตวิธีการใช้งานอย่างละเอียดพร้อมอบรมการใช้งานเครื่องให้ก่อนเสมอ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคลินิกที่นำเครื่องไปใช้นั้นมีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานเครื่องได้อย่างถูกต้อง และสามารถเลือกใช้เครื่องมือที่แก้ไขปัญหาให้ผู้มารับบริการได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ AESLA ยังมีทีมช่างมืออาชีพสำหรับเข้าไปซ่อมบำรุงและตรวจสอบการทำงานของเครื่องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เครื่องสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยมีการเตรียมแผนการดูแลบำรุงรักษาอย่างชัดเจน เพื่อให้เครื่องมืออยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดระยะเวลารับประกัน

ที่สำคัญที่สุดคือ AESLA เป็นตัวแทนแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตในการดูแลและให้คำปรึกษาสำหรับการซ่อมบำรุงเครื่องมือแพทย์จากบริษัท Cynosure ด้วยทีมงาน Engineer and technician service ที่มีความสามารถและได้รับ Certificates โดยตรง ผู้ประกอบการจึงสามารถมั่นใจได้ในความเชี่ยวชาญและความใส่ใจรายละเอียดในการดูแลเครื่อง รวมถึงอะไหล่และอุปกรณ์แท้ที่มีคุณภาพสำหรับการใช้งานอีกด้วย

 

ช่องทางการติดต่อ AESLA : www.aesla.com , Email: marketing@aesla.com

Tel:  +662-538-6996, +6692-573-9907 

 
AESLA เครื่อง Diode Laser กำจัดขน Mediostar Monolith

การกำจัดขนด้วยเครื่อง Diode Laser มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย

การกำจัดขนด้วยเครื่อง Diode Laser มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย

AESLA เครื่อง Diode Laser กำจัดขน Mediostar Monolith

การกำจัดขนด้วยเทคโนโลยี Diode Laser เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่สูงกว่าวิธีการกำจัดขนแบบดั้งเดิม เครื่องเลเซอร์กำจัดขนประเภทนี้ใช้ความยาวคลื่นที่เหมาะสมในการทำลายรากขน ทำให้สามารถกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดการเกิดขนใหม่ในระยะยาวได้อีกด้วย

ทำไม Diode Laser จึงมีประสิทธิภาพในการกำจัดขน?

การกำจัดขนด้วย Diode Laser ใช้ความยาวคลื่นที่เฉพาะเจาะจงในการจับเม็ดสีเมลานินในเส้นขน โดยทั่วไปจะมีความยาวคลื่นประมาณ 810 นาโนเมตร ซึ่งเป็นความยาวคลื่นที่สามารถเจาะลึกลงไปถึงรากขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องรุ่นใหม่ ๆ ที่ใช้ความยาวคลื่นที่หลากหลายร่วมกัน เช่น เครื่อง Mediostar Monolith ที่ใช้ความยาวคลื่น 810 นาโนเมตร และ 940 นาโนเมตร ทำงานร่วมกันนอกจากช่วยในการกำจัดขนแล้ว ยังทำให้รากขนฝ่อลีบ ทำลายหลอดเลือดที่เป็นแหล่งอาหารหล่อเลี้ยงเส้นขน หยุดการเจริญเติบโตของขน ทำให้วงจรการเกิดขนใหม่มีการชะลอตัวช้าลงมากขึ้นเรื่อย ๆ

ความปลอดภัยของ Diode Laser

เครื่องเลเซอร์ขน (Laser Hair Removal) แบบ Diode Laser ปัจจุบันในตลาดความงามถือว่ามีอยู่หลากหลาย ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่ความปลอดภัยเป็นหลักสำคัญอันดับแรก ๆ ที่ทำให้การกำจัดขนด้วย Diode Laser ถูกพูดถึงมากที่สุด โดยมีเหตุผลสนับสนุนที่น่าสนใจหลายประการ ดังต่อไปนี้

1. ความยาวคลื่นที่เหมาะสม

ความยาวคลื่น 810 นาโนเมตรสามารถจับเม็ดสีเมลานินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องใช้พลังงานสูงมากเกินไป ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดแผลไหม้บนผิวหนัง

2. เทคโนโลยี Cooling

เครื่อง Diode Laser ส่วนใหญ่มาพร้อมกับ Cooling ที่ช่วยทำความเย็นเพื่อปกป้องผิวหนังระหว่างการรักษา ลดความเจ็บปวด และป้องกันการเกิดแผลไหม้

3. ความเหมาะสมกับสีผิวที่หลากหลาย

Diode Laser สามารถใช้ได้กับผู้ที่มีสีผิวแตกต่างกัน รวมถึงผิวที่มีสีเข้มกว่า ทำให้เหมาะสมกับผู้ใช้ที่หลากหลาย

4. การรับรองมาตรฐาน

เครื่อง Diode Laser คุณภาพสูง เช่น Mediostar ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรระดับสากล เช่น U.S.FDA และ Gold Standard ซึ่งเป็นการรับประกันความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

Mediostar Monolith นวัตกรรมล่าสุดในการกำจัดขน

Mediostar Monolith เป็นตัวอย่างของเครื่อง Diode Laser รุ่นใหม่ที่รวมคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ

 

  1. การผสมผสานความยาวคลื่น: ใช้ความยาวคลื่น 810 นาโนเมตร และ 940 นาโนเมตร ทำงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดขน
  2. ระบบทำความเย็น Contact Cooling 360°: ให้ความเย็นรอบทิศทาง ช่วยลดความเจ็บปวดและป้องกันการเกิดแผลไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. ความเสถียรของพลังงาน: มีความเสถียรในการปล่อยพลังงานสูง ทำให้ผลการรักษามีความสม่ำเสมอ
  4. การรับรองมาตรฐาน: ได้รับการรับรองจาก U.S.FDA และ Gold Standard ซึ่งเป็นการรับประกันคุณภาพและความปลอดภัย
  5. ความสามารถในการปรับแต่ง: สามารถปรับค่าต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและเส้นขนของแต่ละบุคคลได้

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ Mediostar Monolith จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดขนอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

 

การกำจัดขนด้วย Diode Laser เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้เครื่องที่มีคุณภาพสูงและได้รับการรับรองมาตรฐาน เช่น Mediostar Monolith การเลือกใช้เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยกำจัดขนในระยะสั้น แต่ยังช่วยลดการเกิดขนใหม่ในระยะยาว ทำให้ผู้ใช้สามารถมีผิวเรียบเนียนได้อย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญและการปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด

เข็มฉีดฟิลเลอร์ในรูปแบบของเข็ม cannula

เข็ม Micro-cannula ปฏิวัติวงการฉีดฟิลเลอร์เพื่อความงามที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

เข็มฉีดฟิลเลอร์ Micro-cannula นวัตกรรมใหม่แห่งวงการ Aesthetics

เข็มฉีดฟิลเลอร์ในรูปแบบของเข็ม cannula

ในวงการของศัลยกรรมความงาม การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญได้เกิดขึ้นกับวิธีการฉีดฟิลเลอร์ จากที่เคยใช้เข็มฉีดฟิลเลอร์ปลายแหลมเป็นมาตรฐาน สู่การใช้ Micro-cannula หรือเข็มฉีดฟิลเลอร์ปลายทู่ที่กำลังเป็นทางเลือกยอดนิยมในปัจจุบัน

แต่เดิม กล่องฟิลเลอร์มักมาพร้อมเข็มฉีดยาปลายแหลมเพื่อความสะดวกในการใช้งาน แต่มีความเสี่ยงจากการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและหลอดเลือด รวมถึงโอกาสเกิดรอยฟกช้ำสูง ทำให้วงการแพทย์เริ่มมองหาทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า Micro-cannula จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความปลอดภัย ด้วยปลายทู่ที่ลดโอกาสการแทงทะลุเส้นเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงได้อย่างมีนัยสำคัญ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ส่งผลให้ผู้ผลิตเริ่มบรรจุ Micro-cannula ลงในกล่องฟิลเลอร์มากขึ้น กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการที่มุ่งเน้นทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัยไปพร้อมกัน

การเปรียบเทียบเข็มฉีดฟิลเลอร์ ปลายแหลม VS ปลายทู่ (Micro-cannula)

โครงสร้างและการออกแบบ:

  • เข็มปลายแหลม: มีปลายแหลมคมขนาดเล็กMicro-cannula: มีปลายมน มีความยืดหยุ่นมากกว่า

วิธีการใช้งาน:

  • เข็มปลายแหลม: สามารถแทงผ่านผิวหนังได้โดยตรง
  • Micro-cannula: ต้องใช้เข็มนำ (Pilot needle) เจาะรูเล็กๆ ก่อน แล้วจึงสอด Micro-cannula ผ่านรูนำ

ความแม่นยำ:

  • เข็มปลายแหลม: ให้ความแม่นยำสูงในการฉีดจุดเล็ก ๆMicro-cannula: เหมาะสำหรับการกระจายฟิลเลอร์ในพื้นที่กว้าง 

ความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ:

  • เข็มปลายแหลม: มีโอกาสสูงที่จะทำให้เกิดรอยฟกช้ำ เลือดออก และบวม
  • Micro-cannula: ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บต่อเส้นเลือดและเนื้อเยื่อ

ความเจ็บปวดระหว่างการรักษา:

  • เข็มปลายแหลม: ผู้รับบริการอาจรู้สึกเจ็บมากกว่า
  • Micro-cannula: ลดความเจ็บปวดระหว่างการรักษา ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายกว่า

ระยะเวลาฟื้นตัว:

  • เข็มปลายแหลม: อาจใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าเนื่องจากมีโอกาสเกิดรอยฟกช้ำสูง
  • Micro-cannula: ฟื้นตัวเร็วกว่า มีรอยฟกช้ำน้อยกว่า
ความเสี่ยงต่อการอุดตันของหลอดเลือด:
  • เข็มปลายแหลม: มีความเสี่ยงสูงกว่าในการเกิดการอุดตันของหลอดเลือด
  • Micro-cannula: ลดความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากปลายทู่มีโอกาสน้อยที่จะแทงทะลุหลอดเลือด
ความเป็นธรรมชาติของผลลัพธ์:
  • เข็มปลายแหลม: อาจทำให้เกิดการกระจายตัวของฟิลเลอร์แบบเป็นจุด
  • Micro-cannula: ช่วยให้การกระจายตัวของฟิลเลอร์เป็นธรรมชาติมากขึ้น ลดโอกาสที่ฟิลเลอร์เป็นก้อนทั้งสองวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกัน การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ ลักษณะผิวของผู้รับบริการ และตำแหน่งที่ต้องการฉีด อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในปัจจุบันแพทย์เริ่มหันมาใช้ Micro-cannula มากขึ้นเนื่องจากข้อได้เปรียบด้านความปลอดภัยและการฟื้นตัวที่รวดเร็ว
 

SoftFil® เข็มฉีดฟิลเลอร์ ที่ปลอดภัย ใช้ง่าย และสะดวกสบายต่อการใช้งาน

เมื่อเข็มฉีดฟิลเลอร์แบบ Microcannula เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น วงการความงามได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ผู้ผลิตเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาและออกแบบเข็มฉีดให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยมุ่งเน้นสามด้านหลัก ดังนี้ ความปลอดภัย ความสะดวกในการใช้งาน และการลดอาการบาดเจ็บของผู้รับบริการ ทำให้แพทย์สามารถเลือกใช้เข็มที่เหมาะสมและเฉพาะเจาะจงกับแต่ละบริเวณที่ต้องการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าง เข็มฉีดฟิลเลอร์ Micro-cannula จากแบรนด์ SoftFil® ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายของแพทย์ในการใช้งานและลดอาการบาดเจ็บของคนไข้ เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคลินิกชั้นนำจากทั่วโลก

ข้อดีของเข็ม SoftFil Precision 

  • มีการออกแบบเส้นวัดระยะทุก ๆ 1 ซม. ที่บริเวณเข็ม เพิ่มความสามารถในการระบุตำแหน่งของปลายเข็มอย่างแม่นยำ เพื่อการฉีดที่แม่นยำยิ่งขึ้น
  • ตัวเข็ม Stainless Steel เคลือบสารหล่อลื่นซิลิโคน  เพิ่มความลื่นในการแทงเข็มภายในผิวหนัง เพื่อลดความเจ็บของคนไข้ 
  • มีฐาน Lure Lock ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อการเชื่อมต่อของเข็ม เพิ่มความปลอดภัย ช่วยให้เข็มแน่นมากขึ้น ไม่หลุดออกจากไซริง 
  • มีเข็มให้เลือกถึง 22 ขนาด เพิ่มตัวเลือกสำหรับการฉีดในทุกบริเวณ 
  • จุด Red Dot เป็นสัญลักษณ์บอกตำแหน่งของรูเข็ม เพิ่มความแม่นยำในการฉีด

SoftFil EasyGuide Micro-cannula ที่มาพร้อม เข็ม Pilot รูปแบบใหม่ล่าสุด

เข็ม Pilot หรือเข็มปลายแหลมขนาดเล็ก มีหน้าที่สร้างรูเล็ก ๆ บนผิวหนังเพื่อเปิดทางให้เข็ม cannula สามารถผ่านเข้าไปได้ แต่ด้วยธรรมชาติของผิวที่มีความยืดหยุ่นสูงทำให้รูที่สร้างขึ้นมาปิดลงทันทีหลังจากการเจาะเปิดทาง แพทย์อาจจะต้องแทงเข็ม cannula ลงบนผิวหลายครั้งเพื่อหารูเข็ม ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและความเจ็บปวดได้ 

 

SoftFil EasyGuide เป็นเซตเข็ม Micro-cannula ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์นำทางเข็มหรือ เข็ม Pilot รูปทรงตัว V ที่ถูกออกแบบเป็นเอกลักษณ์ มีลักษณะเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของเข็ม ช่วยให้แพทย์สามารถเปิดรูในผิวพร้อมกับสอดเข็ม Micro-cannula ลงไปในผิวได้อย่างสะดวก มั่นคง และแม่นยำ  

บอกลาหลุมสิว กับ NanoFractional RF : Venus Viva MD

บอกลาหลุมสิว กับ NanoFractional RF เปลี่ยนผิวคุณให้เรียบเนียน

บอกลาหลุมสิว กับ NanoFractional RF เปลี่ยนผิวคุณให้เรียบเนียน

บอกลาหลุมสิว กับ NanoFractional RF : Venus Viva MD

หลุมสิวเป็นปัญหาที่กวนใจใครหลายคน เพราะทำให้ขาดความมั่นใจ และดูอ่อนเยาว์น้อยลง เทคโนโลยี NanoFractional RF จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การแก้ไขปัญหานี้โดยเฉพาะ โดยอาศัยผลของความร้อนในการทำให้เกิดกระบวนการ Fractionalในชั้นผิวหนัง กระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่เรียบเนียน รูขุมขนที่กระชับ และดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

เครื่องรักษาหลุมสิว NanoFractional RF ทำงานโดยการส่งคลื่นวิทยุความถี่สูงลงไปที่ผิวหนังชั้นใน ทำให้เกิดผลของความร้อน ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวมีความเรียบเนียนขึ้น สามารถลดเลือนรอยแผลเป็นจากสิว และปรับสภาพผิวได้อย่างเห็นผลชัดเจน

NanoFractional RF แตกต่างจาก Fractional RF ทั่วไปอย่างไร?

หากเปรียบเทียบ NanoFractional RF กับ Fractional RF ทั่วไป เครื่องรักษาหลุมสิว NanoFractional RFสามารถรักษาปัญหาผิวได้อย่างแม่นยำและตรงจุด โดยไม่ทำลายผิวบริเวณรอบข้าง นอกจากนี้ยังปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง โดย NanoFractional RF จะทำให้เกิดแผลขนาดเล็กมาก ๆ (Microwounds) เมื่อเทียบ กับ Fractional RF แบบอื่น ๆ นอกจากนั้นแผลที่เกิดจากเทคโนโลยี NanoFractional RF ยังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ส่งผลให้กระบวนการ Healing Process ไวกว่า และมีระยะการพักฟื้น (Downtime) สั้นกว่า แบบอื่น ๆ อีกด้วย

NanoFractional RF ดีกว่าอย่างไร เมือเทียบกับ Fractional RF ทั่วไป?

Fractional RF 

  • ขนาดแผล: พลังงานทำให้เกิดความร้อนในบริเวณผิวหนัง ซึ่งผลลัพธ์เป็นแผลค่อนข้างใหญ่
  • ผลลัพธ์: ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น ริ้วรอย และปรับปรุงผิวได้ในระดับหนึ่ง
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาผิวทั่วไป เช่น รอยแผลเป็น ริ้วรอยเล็กน้อย

NanoFractional RF

  • ขนาดแผล: สามารถส่งพลังงานไปยังจุดที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ แผลค่อนข้างเล็ก ฟื้นตัวไว
  • ผลลัพธ์: ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและเห็นผลได้ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับปัญหาหลุมสิว รอยแผลเป็นที่ลึก และรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาผิวเฉพาะเจาะจง เช่น หลุมสิว รอยแผลเป็นที่ลึก และต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นได้ชัด

ทั้ง Fractional RF และ NanoFractional RF ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงสภาพผิว แต่ NanoFractional RF ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ เห็นผลชัดเจนรวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน แม้กระทั่งผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวหรือรอยแผลเป็นที่ลึก

 

NanoFractional RF ในเครื่องรักษาหลุมสิว Venus Viva MD ใช้รักษาอะไรได้บ้าง?

  • รักษาหลุมสิวได้อย่างครอบคลุม ทั้งชนิดตื้นและลึก 
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง 
  • กระชับรูขุมขน เผยผิวเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น 
  • แก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ 
  • ลดริ้วรอยร่องลึก 
  • รักษารอยแผลเป็น 
  • รักษาอาการ Rosacea 
  • ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย 
  • รักษารอยแตกลาย
ทำความสะอาดผิวด้วยเครื่องHydrafacial Facial Treatment

Hydrafacial ฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกด้วยเทคโนโลยี Vortex Fusion

ฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึกกับ Hydrafacial Treatment

ทำความสะอาดผิวด้วยเครื่องHydrafacial Facial Treatment

เครื่อง Hydrafacial เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ผสมผสานการทำความสะอาดใบหน้าและการเติมเต็มสารสกัดเข้มข้นเข้าสู่ผิวไว้ในขั้นตอนเดียว ด้วยหัวดูดน้ำวน Vortex Fusion Technology ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนและขจัดสิ่งสกปรกภายในรูขุมขนออกไปได้อย่างสะอาดหมดจด โดยได้รับการจดสิทธิบัตรเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Hydrafacial รับรองคุณภาพจาก U.S.FDA จึงสามารถมั่นใจได้ว่าเครื่องสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

Hydrafacial ปกป้องผิวจากมลภาวะและ PM2.5

Hydrafacial Syndeo แตกต่างจากเครื่องทรีตเมนต์ทั่วไปด้วยประสิทธิภาพในการเติมสารสกัดเข้มข้นเข้าสู่ผิวไปพร้อม ๆ กับการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนภายในขั้นตอนเดียว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใส กระชับรูขุมขน และช่วยให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น การเติมสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวด้วย Booster เข้มข้น ยังช่วยฟื้นฟูและบำรุงให้ผิวมีความแข็งแรง ดูกระจ่างใส ไม่หมองคล้ำ นอกจากนั้นยังตอบโจทย์สำหรับเทรนด์ความงามในปี 2024 ที่เน้นปกป้องผิวจากผลกระทบของมลภาวะ PM2.5 ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ซึ่งการล้างหน้าปัจจุบันอาจไม่เพียงพอ ทรีตเมนต์ Hydrafacial จึงช่วยถนอมผิวได้มากกว่า และสร้างสมดุลเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพผิวให้ดีขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

ข้อดีของ Vortex Fusion Technology

เทคโนโลยี Vortex Fusion เป็นเอกลักษณ์ของ Hydrafacial ที่มอบประสบการณ์การดูแลผิวอย่างล้ำลึก โดยการทำความสะอาดผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ ผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างครอบคลุม รวมถึงช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังทำทรีตเมนต์หน้า

รูปแบบการทำงานของ Hydrafacial 

  • Lympathic Therapy เริ่มต้นด้วยการเตรียมผิวกับกระบวนการกระตุ้นต่อมน้ำเหลือง ที่ช่วยขจัดของเสียและลดการอักเสบ
  • Deep Cleansing ทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก ด้วยหัว Tip สามารถผลัดเซลล์ผิวชั้นบนที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดไปได้อย่างอ่อนโยนและไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง
  • Extraction ขจัดสิ่งสกปรก ความมัน และฝุ่นละอองที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่อยู่ในรูขุมขน ด้วยแรงดูดที่อ่อนโยนพร้อมเตรียมผิวหน้าสำหรับการฟื้นบำรุงในขั้นต่อไป
  • Hydration เติมสารอาหารวิตามินเข้มขัน บำรุงดูแลทุกสภาพผิวได้อย่างตรงจุดด้วย Booster ชั้นนำหลากหลายสูตร ตอบโจทย์ปัญหาผิวที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคลได้อย่างลงตัว
  • LED Light Therapy การฉายแสงผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วย Red LED Light เน้นกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดการอักเสบ Blue LED Light ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวพร้อมควบคุมความมัน
  • Antiox + ขั้นตอนสุดท้าย การปลอบประโลมผิวคุณด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นกาะป้องกันผิว เกิดความชุ่มชื้นและพื้นฟูผิวหน้าให้แข็งแรง

ประโยชน์ของ Hydrafacial

  • ทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก: ขจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินได้อย่างหมดจด
  • ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน: ช่วยให้ผิวเรียบเนียน สดใส
  • เติมเต็มความชุ่มชื้น: ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ดูอ่อนเยาว์
  • ปรับสภาพผิว: ช่วยแก้ไขปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น สิว รูขุมขนกว้าง
  • ผ่อนคลายผิว: ทำให้ผิวรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย

ความคุ้มค่าในการซื้อเครื่อง Hydrafacial

ถึงแม้ Hydrafacial จะเป็นเครื่องทรีตเมนต์หน้า(Facial treatment)ที่มีจุดเด่นในการทำความสะอาดใบหน้าและเติมเต็มสารสกัดเข้าสู่ผิว แต่การมีเครื่อง Hydrafacial สามารถสร้างรายได้ให้กับคลินิกได้มากกว่าการใช้งานตัวเครื่องเพียงอย่างเดียว ด้วยชื่อแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือระดับโลก การแยกใช้อุปกรณ์ที่มาพร้อมกับตัวเครื่องในการสร้างรายได้ รวมการทำทรีตเมนต์ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ในคลินิกเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการรักษา ทำให้ Hydrafacial เป็นเครื่องทรีตเมนต์หน้า(Facial treatment)ที่มีความคุ้มค่าในการลงทุนสูงมาก

  1. Hydrafacial เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก
    ด้วยชื่อและภาพลักษณ์แบรนด์ที่โดดเด่นทำให้ Hydrafacial ไม่เพียงแต่เป็นแบรนด์ที่น่าจดจำเท่านั้นแต่ยังสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับกลุ่มลูกค้าได้อีกด้วย การเลือกเครื่องทรีตเมนต์หน้า(Facial treatment)ที่กำลังได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักดีอยู่แล้วในตลาดความงามจึงช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในประสิทธิภาพของเครื่องและสามารถตัดสินใจในการทำทรีตเมนต์ได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นการเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกช่วยให้คลินิกมีฐานลูกค้าที่หลากหลาย โดยเฉพาะลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งอาจมีกำลังและศักยภาพในการใช้จ่ายบริการด้านความงามที่สูงกว่าอีกด้วย หลังจากที่ภาพลักษณ์ในประเทศไทยช่วงหลังมีความเป็นศูนย์กลางการให้บริการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์ (Wellness Tourism & Medical Hub) มากขึ้น
  2. เพิ่มมูลค่าให้กับการทำความสะอาดใบหน้า
    การทำความสะอาดใบหน้าเป็นขั้นตอนแรกก่อนการทำหัตถการทุกชนิดและยังเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ช่วยป้องกันการเกิดผลข้างเคียงในการรักษาอีกด้วย โดยคลินิกสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับขั้นตอนนี้ได้ด้วยการใช้เครื่องทรีตเมนต์หน้าแทนการทำความสะอาดใบหน้าแบบทั่วไป โดยสารสกัดเข้มข้นของ Hydrafacial สามารถเข้าไปเสริมประสิทธิภาพของหัตถการให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น พร้อมกับสร้างประสบการณ์ที่ดีและเพิ่มความประทับใจให้กับลูกค้าได้อีกด้วย
  3. พนักงานสามารถให้บริการได้
    หนึ่งในปัจจัยที่เจ้าของคลินิกเสริมความงามต้องคำนึงถึงคือผลประกอบการจากการให้บริการแก่ลูกค้าในแต่ละครั้งเนื่องจากแพทย์สามารถรักษาคนไข้ได้จำนวนจำกัดต่อวัน การมีเครื่อง Hydrafacial จึงมีข้อได้เปรียบ เพราะ “Therapist” ที่ผ่านการอบรมการใช้เครื่องสามารถให้บริการต่อลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่เกิดความเสี่ยงในการรักษา จึงเป็นการช่วยประหยัดเวลาเพื่อให้แพทย์สามารถดูแลลูกค้าที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและความชำนาญมากกว่าได้ คลินิกจึงสามารถให้บริการ Hydrafacial กับลูกค้าได้เยอะขึ้น
  4. ให้ผลลัพธ์ที่เสถียรทุกครั้ง
    การทำหัตถการด้วยเครื่องมือแพทย์ความงามหรือทรีตเมนต์บางชนิดลูกค้าไม่สามารถคาดเดาถึงผลลัพธ์หลังการรักษาได้อย่างชัดเจน รวมถึงไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังรับบริการ ซึ่งมีผลเป็นอย่างมากต่อการตัดสินใจของลูกค้า โดยการทำ Hydrafacial สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้อย่างสม่ำเสมอในทุกครั้ง และลูกค้ายังสามารถเห็นความแตกต่างของผิวที่เรียบเนียน สุขภาพดี และกระจ่างใสขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
  5. เหมาะกับทุกสีผิวและทุกสภาพผิว
    ในบางกรณี คลินิกเสริมความงามอาจต้องปฏิเสธการให้บริการแก่ลูกค้าเนื่องจากเครื่องมือแพทย์ความงามบางชนิดมีข้อจำกัดในเรื่องของสีผิวหรือสภาพผิว ทำให้เสียโอกาสในการให้บริการแก่ลูกค้าไป ซึ่งเครื่อง Hydrafacial เป็นเครื่องทรีตเมนต์หน้าที่สามารถรักษาได้ในทุกสีผิวและทุกสภาพผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแม้ในผิวแพ้ง่าย มีข้อจำกัดในการรักษาน้อย และมีความหลากหลายในการใช้งานสูงขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของคนไข้ ทำให้ Hydrafacial เป็นทรีตเมนต์ที่ลูกค้าทุกคนสามารถรับบริการได้
  6. ลูกค้ากลับมาทำซ้ำและบอกต่อ
    หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ Hydrafacial โดดเด่นและสามารถดึงดูดลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ไว้ได้คือการมอบผลลัพธ์ของผิวที่เรียบเนียน ดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ครั้งแรกหลังการทำทรีตเมนต์ ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจและตัดสินใจกลับมารับบริการซ้ำได้ง่ายขึ้น เมื่อลูกค้ากลับมารับบริการอย่างเป็นประจำทุก ๆ 1 เดือน ผิวหน้าจะเริ่มมีความแข็งแรงมากขึ้น ผลลัพธ์ในการทำทรีตเมนต์อยู่ได้นานขึ้น และช่วยสร้างรายได้ให้กับคลินิกอย่างสม่ำเสมอ

AESLA ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่อง Hydrafacial

“AESLA” หรือ บริษัท เอสล่า จำกัด เป็นบริษัทผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่อง Hydrafacial และเครื่องมือแพทย์ความงามระดับโลกมาตรฐาน Gold Standard ที่ได้ผ่านการรับรองคุณภาพจาก U.S.FDA และ Thai FDA

โดย AESLA มีบริการหลังการขาย พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลอย่างครบวงจร เช่น บริการ Training โดย Certified Clinical Specialist เพื่อให้แพทย์และพนักงานสามารถใช้งานเครื่องมือทางการแพทย์ได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพและปลอดภัย รวมถึงมีบริการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์อยู่เสมอ พร้อมติดตามผลรวดเร็วกายใน 24 ชั่วโมงด้วยทีมงานพิเศษ เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของแพทย์และผู้รับบริการ