Open on Mon – Fri 09:00-18:00

การรักษาหลุมสิวด้วยเครื่องมือแพทย์ความงาม Aesla

จบปัญหาหลุมสิว ผิวหน้าไม่เรียบเนียน ด้วยนวัตกรรมรักษาหลุมสิว 2024

จบปัญหาหลุมสิว ผิวหน้าไม่เรียบเนียน ด้วยนวัตกรรมรักษาหลุมสิว 2024

การรักษาหลุมสิวด้วยเครื่องมือแพทย์ความงาม Aesla

“สิว” ปัญหากวนใจของใครหลาย ๆ คน ที่แม้จะรักษาจนหายแล้วแต่ก็ยังคงทิ้งไว้ทั้งรอยดำ รอยแดง และรอยหลุมสิว ที่ใช้เวลาในการรักษาให้หายนานกว่าและยากกว่าการรักษาสิวเสียอีก โชคดีที่ในปัจจุบัน นอกจากครีมบำรุงแล้ว ยังมีเครื่องมือแพทย์ความงาม (Aesthetic equipment) ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยรักษาหลุมสิวอย่างได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และเห็นผลชัดเจน 

รอยสิวเกิดจากอะไร?

รอยสิวจะเกิดขึ้นหลังจากจบกระบวนการรักษาตัวเองของผิวเมื่อเกิดรอยแผลจากสิวอักเสบ ซึ่งสิวอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น กรรมพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และการอุดตันของรูขุมขน เมื่อสิวอักเสบเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ร่างกายจะกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมตัวเองโดยการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่เพื่อซ่อมแซมผิว ซึ่งในบางครั้งเส้นใยคอลลาเจนที่สร้างขึ้นมานั้นอาจมีลักษณะที่แข็งและยึดติดกันเป็นพังผืด ทำให้ผิวบริเวณนั้นถูกดึงรั้งและเกิดเป็นหลุมสิวขึ้น 

เครื่องรักษาหลุมสิวทำงานอย่างไร ?

ในปัจจุบัน มีเครื่องมือแพทย์ความงามหลายชนิดสามารถรักษาหลุมสิวได้ ทั้งการใช้เลเซอร์, คลื่นความถี่วิทยุ (RF) และ Microneedling ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน แต่หลักการรักษาก็ยังคงมีความคล้ายคลึงกันคือการส่งพลังงานลงไปกระตุ้นการสร้างของคอลลาเจนในผิวเพื่อให้เกิดเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาฟื้นฟูหลุมสิว ซึ่งสามารถทำได้โดยวิธีการที่ทำให้เกิดแผล (Ablative) และไม่เกิดแผล (Non-ablative) ผลลัพธ์ ความรู้สึกเจ็บ และการพักฟื้นจะแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของหลุมสิว สีผิว และสภาพผิวของผู้ป่วยอีกด้วย

รวม 3 นวัตกรรมรักษาหลุมสิว

1.NanoFractional RF 

เทคโนโลยี NanoFractional RF เป็นรักษาหลุมสิวแบบ Ablative ทำงานโดยการส่งพลังงานความร้อนจากคลื่นความถี่วิทยุลงไปยังชั้นผิวเพื่อสร้างบาดแผลขนาดเล็ก ทำให้ร่างกายกระตุ้นกลไกการซ่อมแซมตัวเองโดยการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ หลุมสิวจึงถูกฟื้นฟูขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่อง Venus Viva MD ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวอย่างมีประสิทธิภาพแต่ต้องการระยะเวลาพักฟื้นที่น้อย ด้วยเทคโนโลยี SmartScan™ ที่สุ่มปล่อยพลังงานทีละจุดจากหัว Pin ทำให้การสะสมความร้อนในชั้นผิวลดลง แพทย์สามารถใช้พลังงานในการรักษาที่เข้มข้นขึ้นได้โดยไม่ต้องกังวลถึงความเสี่ยงที่จะเกิดการเบิร์นบนชั้นผิว ทำให้ Venus Viva MD เป็นเครื่องรักษาหลุมสิวที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสูง ผลข้างเคียงในการรักษาน้อย ปลอดภัย และมีระยะเวลาพักฟื้นเพียง 24 ชั่วโมง โดยคนไข้สามารถกลับไปบำรุงผิวหรือแต่งหน้าได้ตามปกติหลังการรักษา  

 

2. Microneedling RF

เทคโนโลยี Microneedling RF เป็นนวัตกรรมที่สามารถรักษาปัญหาผิวได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการรักษาหลุมสิว กระชับรูขุมขน และยกกระชับใบหน้า โดยเข็มของเครื่อง Microneedling RF จะปล่อยพลังงานลงไปยังชั้นผิวที่ต้องการ เพื่อกระตุ้นการสร้างและจัดเรียงใหม่ของคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้หลุมสิวถูกฟื้นฟูขึ้น นอกจากนี้ เข็มยังมีส่วนช่วยในการตัดพังผืดใต้หลุมสิว ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับการทำ Subcision ทำให้รอยหลุมสิวที่ถูกพังผืดดึงรั้งลงไปสามารถฟื้นฟูและกลับมาดูเรียบเนียนขึ้นได้ 

Potenza จากแบรนด์ Cynosure คือเครื่องมือแพทย์ความงามที่เรียกได้ว่าเป็น “The World’s First 4-Mode Microneedling RF” เนื่องจากเป็นเครื่องแรกและเครื่องเดียวในปัจจุบันที่สามารถปรับรูปแบบพลังงานของคลื่นได้ทั้งแบบ Monopolar และ Bipolar ทำให้สามารถเลือกความลึกของพลังงานที่ปล่อยลงไปยังผิวของคนไข้ได้ นอกจากนี้ยังสามารถปรับความถี่ได้ทั้ง 1MHz และ 2MHz เพื่อปรับระดับความเข้มข้นของพลังงาน ทำให้แพทย์สามารถออกแบบการรักษาได้อย่างหลากหลายตามปัญหาผิวที่คนไข้ต้องการรักษา 

 

3. Picosecond Laser 

เทคโนโลยี Picosecond Laser มีความโดดเด่นในการรักษารอยดำ ด้วยพลังงานของเลเซอร์ที่มีความเร็วสูง จึงสามารถทำให้เม็ดสีเมลานินแตกตัวออกเป็นขนาดที่เล็กมาก ๆ เพื่อให้ร่างกายสามารถกำจัดเม็ดสีเหล่านี้ออกไปตามธรรมชาติได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากการรักษาเม็ดสีเมลานินแล้ว Picosecond Laser ยังมีอุปกรณ์เสริมที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาหลุมสิวแบบ Non-ablative จึงไม่ก่อให้เกิดแผลเลือดออก เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นแต่ยังคงต้องการผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็ว 

PicoSure เป็นเครื่อง Picosecond Laser เครื่องแรกของโลกที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือแพทย์ความงามโดยเฉพาะ และยังเป็นเครื่องเดียวในปัจจุบันที่ใช้ความยาวคลื่น 755 นาโนเมตรจากแร่ Alexandrite ซึ่งเป็นความยาวคลื่นที่สามารถถูกดูดซึมได้ดีโดยเม็ดสีเมลานิน ช่วยลดรอยดำจากสิว รวมถึงฝ้า กระ และรอยดำอื่น ๆ นอกจากนี้ หัว Focus Lens Array ของ PicoSure ยังสามารถรักษาหลุมสิวได้ด้วยโดยการสร้าง LIOBs และส่ง PressureWave™ ลงไปกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวถูกฟื้นฟูขึ้นโดยไม่เกิดแผลในผิวชั้นบน ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อยและสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีหลังการรักษา ทำให้เครื่อง PicoSure ตอบโจทย์การรักษาทั้งหลุมสิว รอยดำ และรอยแดงจากสิวได้อย่างครบวงจรภายในเครื่องเดียว 

 

AESLA เป็นหนึ่งในผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ด้านความงามระดับโลก ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับเอเชีย ด้วยตัวเลือกเครื่องมือที่หลากหลายและล้ำสมัย จึงพร้อมตอบสนองทุกความต้องการของคลินิกความงามเพื่อให้แพทย์สามารถมอบการรักษาที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า

Events & Workshops
AESLA

AESLA AWARDS 2024

“A NIGHT OF STELLAR HONORS – AESLA AWARDS 2024” h

Read More »
Potenza แก้ปัญหา ผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย

“ผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย” สาเหตุเกิดจากอะไร? แก้อย่างไรดี?

“ผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย” สาเหตุเกิดจากอะไร? แก้อย่างไรดี?

Potenza แก้ปัญหา ผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย

รอยสิวเกิดจากอะไร? ปัญหาผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย เกิดจากอะไรได้บ้าง?

1.การเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอีลาสติน

เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและกระชับน้อยลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อยได้ง่ายขึ้น แต่บางทีปัญหาผิวหย่อนคล้อยก่อนวัยที่เกิดขึ้น อาจเป็นเพราะปัจจัยที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด อย่างเช่นพันธุกรรม โดยบางคนอาจมีพันธุกรรมที่ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยได้เร็วกว่าคนอื่น ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นเดียวกับการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอีลาสติน  

 

2. การสัมผัสแสงแดดมากเกินไปในชีวิตประจำวัน 

รังสี UV จากแสงแดดสามารถทำลายคอลลาเจนในผิวหนัง เพราะฉะนั้นการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานโดยไม่มีการป้องกันที่เพียงพอ ส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยได้ 

 

3.ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ 

ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอสามารถกระทบกระเทือนกระบวนการฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวดูเหนื่อยล้าและหย่อนคล้อยได้ เป็นปัจจัยหลักที่นอกจากจะทำให้ผิวหน้าดูทรุดโทรมกว่าปกติแล้ว ยังทำให้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยก่อนวัยอันควรอีกด้วย  

 

4.การสูบบุหรี่ 

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า การสูบบุหรี่มีโทษหลายอย่างต่อร่างกาย ซึ่งสารพิษในบุหรี่อย่างเช่น นิโคติน ยังสามารถลดการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน รวมถึงเพิ่มอัตราการเสื่อมสภาพ ทำให้ผิวดูแก่ก่อนวัยและเสียความยืดหยุ่น จนผิวหย่อนคล้อยได้อีกด้วย  

 

5.การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป  

เช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์สามารถทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและทำลายโครงสร้างของผิว ทำให้ผิวเสื่อมสภาพและหย่อนคล้อยได้ ไม่แปลกใจที่สายปาร์ตี้ เมื่อดื่มสุราหรือสูบบุหรี่จัด บวกกับการนอนดึกและพักผ่อนไม่เพียงพอ จะยิ่งทำให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากกว่าคนปกติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  

6.การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก 

การลดหรือเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว น้ำหนักเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อยมากกว่าที่ควรจะเป็นได้เช่นเดียวกัน  

เหตุผลของการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอีลาสติน

การเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอีลาสตินจนทำให้ผิวหย่อนคล้อย เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่พูดถึงไปแล้วอย่างเช่น อายุที่มากขึ้น, พันธุกรรม, รังสี UV จากแสงแดด, ความเครียด, พักผ่อนไม่เพียงพอ, การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, รวมไปถึงการขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการผลิตคอลลาเจน อย่างเช่น วิตามินซี โปรตีน และสารต้านอนุมูลอิสระ, การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในช่วงวัยหมดประจำเดือน ผู้หญิงจะมีการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ซึ่งฮอร์โมนนี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการผลิตคอลลาเจน หรือแม้กระทั่งมลภาวะในอากาศ เช่น ฝุ่นละอองและสารเคมี สามารถทำลายคอลลาเจนในผิวหนัง และทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายต่อโครงสร้างผิว เป็นต้น   

วิธีแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

วิธีการดูแลผิวแบบธรรมชาติ 

 

1.การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม  

2.หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดโดยไม่มีการป้องกัน  

3.งดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์  

4.การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วน 

5.การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  

6.การดูแลผิวด้วยการรับประทานอาหารเสริม  

การรักษาที่ใช้ตัวกระตุ้นหรือเทคโนโลยีเป็นตัวช่วย 

1. การยกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency, RF) 

2. การยกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ (Ultrasound Therapy) 

3. การฉีดฟิลเลอร์ (Dermal Fillers) 

4. การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) 

5. การร้อยไหม (Thread Lift) 

6. การทำเลเซอร์ยกกระชับผิว (Laser Skin Tightening) 

7. การทำทรีตเมนต์บำรุงผิวด้วยวิตามินและสารอาหาร (Facial Treatment) 

 

โดยในปัจจุบันยังมีพัฒนาการด้านนวัตกรรมเป็นอย่างมาก ทำให้เรามีตัวเลือกมากมาย สำหรับการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างมีผลลัพธ์ที่ดี รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ อาทิเช่น นวัตกรรม Potenza ซึ่งเป็น 4-Mode RF Microneedling เครื่องแรกของโลก เป็นต้น   

Potenza ตอบโจทย์การแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ด้วยเทคโนโลยี 4-Mode RF Microneedling

Potenza รวบรวมทั้ง Monopolar และ Bipolar RF ความถี่ 1&2 MHz  เอาไว้ภายในเครื่องเดียว ช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวทุกส่วนได้อย่างละเอียด แม่นยำ และครบวงจร  สามารถปรับการตั้งค่าและออกแบบการรักษาได้กับทุกสภาพผิว  ครอบคลุมปัญหาผิวตั้งแต่ระดับตื้นไปจนถึงระดับลึก ที่สำคัญหลังรับการรักษายังก่อให้เกิด Downtime น้อย ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน  

 

จากประสิทธิภาพในด้านการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้เทคโนโลยีของ Potenza ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของการ “Repair – Restore – Regenerate”  หรือก็คือ “การซ่อมแซม ฟื้นฟู และสร้างใหม่” ของคอลลาเจนและอีลาสตินตามกระบวนการธรรมชาติของผิว หลังจากที่ได้รับการรักษาโดย Potenza ผิวจึงถูกปลุกให้กลับมามีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ทำให้ผิวแลดูอ่อนกว่าวัย สามารถใช้ในการรักษาปัญหาผิวในด้านการยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างเฉพาะเจาะจง นอกจากนั้น Potenza สามารถตอบโจทย์ปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย คลายทุกความกังวลเรื่องผิวไม่กระชับ ขาดความเต่งตึง แก้ปัญหาหลุมสิว ทำให้ผิวเนียนนุ่มน่าหลงใหลอีกด้วย 

Events & Workshops
AESLA

AESLA AWARDS 2024

“A NIGHT OF STELLAR HONORS – AESLA AWARDS 2024” h

Read More »
ผิวเรียบเนียน กลับมากระชับ จัดการได้ด้วย Potenza

ผิวเรียบเนียน กลับมากระชับ จัดการได้ด้วย Potenza

Potenza นวัตกรรมยกกระชับผิวหน้าที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาเรื่องผิว

ผิวเรียบเนียน กลับมากระชับ จัดการได้ด้วย Potenza

ทำความรู้จักกับ Potenza

Potenza เป็นเทคโนโลยีความงามในกลุ่มเครื่อง Microneedling นอกจากนั้นยังได้รับการยอมรับว่าเป็น “4-Mode RF Microneedling” เครื่องแรกของโลก ที่แบรนด์ Cynosure ยกระดับนวัตกรรมเครื่อง Microneedling ขึ้นมาอีกขั้น ทำให้ตอบโจทย์ในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาผิวของผู้ป่วยได้อย่างครอบคลุมหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถปรับการตั้งค่าและออกแบบการรักษาเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วยแต่ละคน จนในปัจจุบัน เครื่อง Potenza ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของเทคโนโลยีในกลุ่ม RF Microneedling ที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีไปทั่วโลก

RF Microneedling คืออะไร?

เทคโนโลยี RF Microneedling เป็นการนำ Radio Frequency หรือคลื่นความถี่วิทยุมาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือการแพทย์ในด้านความงาม โดยนำมาผสมผสานกับเทคโนโลยี Microneedling Therapy เพื่อการฟื้นฟูผิวหน้า ด้วยการปล่อยพลังงาน RF ลงไปที่ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน จึงถูกนำมาปรับใช้ในการยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย กระชับรูขุมขน ลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ แก้ปัญหาหลุมสิวบนใบหน้า ทำให้จุดด่างดำดูจางลง ปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส ผิวสัมผัสเนียนนุ่ม ฯลฯ ซึ่งเทคโนโลยีในกลุ่มเครื่อง Microneedling ถือว่าได้รับความนิยมในด้านความงามต่าง ๆ

4-Mode RF Microneedling คืออะไร?

สาเหตุที่ Potenza เป็นนวัตกรรมสำหรับการยกกระชับที่ได้รับความนิยม สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการฟื้นฟูผิวของคนไข้ได้อย่างน่าพึงพอใจ ครอบคลุมทุกปัญหาผิวตั้งแต่ระดับตื้นไปจนถึงระดับลึก เนื่องจากรวบรวมทั้ง Monopolar RF และ Bipolar RF ที่ปรับใช้ร่วมกับความถี่ 1&2 MHz เอาไว้ด้วยกันภายในเครื่องเดียว รวม ๆ แล้วจึงสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ถึง 4 โหมด

Bipolar RF

• ส่งพลังงาน RF แบบสองขั้ว โดยส่งพลังงานในพื้นที่เฉพาะเจาะจงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โฟกัสเฉพาะจุดได้ดี 

• การส่งพลังงานความร้อนในเนื้อเยื่อจะมีความเข้มข้นมาก แต่ลงได้ไม่ลึกเท่ารูปแบบ Monopolar RF

Monopolar RF

• ส่งพลังงาน RF แบบขั้วบวกขั้วเดียว (1 Electrode) โดยจะมี Plate (Ground Pad) ที่ทำหน้าที่เป็นขั้วลบ ติดกับตัวของผู้ป่วย

• การส่งพลังงานของคลื่นจะลงได้ในชั้นลึกและกว้างกว่ารูปแบบ Bipolar RF

การทำงานของเครื่อง Potenza

Bipolar RF

Potenza สามารถส่งคลื่นพลังงานความร้อนผ่าน Needle Tip ที่เป็นหัวเข็มขนาดเล็กจำนวนมากและมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัว ซึ่งมีความแตกต่างกับเทคโนโลยีความงามแบบเครื่อง Microneedling ทั่วไปในท้องตลาด ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย ปรับใช้เพื่อแก้ปัญหาผิวประเภทต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุมมากกว่า โดยนอกจาก Potenza จะเป็นเทคโนโลยี RF Microneedling ที่มี 4 โหมดเป็นตัวแรกและตัวเดียวของโลก ทางแบรนด์ Cynosure จากประเทศสหรัฐอเมริกา ยังได้ทำการออกแบบหัว Tip ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกัน หลากหลายมากถึง 10 รูปแบบ เช่น “Fusion Tip” หรือ CP-21 Tip ซึ่งเป็น Tip ที่สามารถส่งพลังงานความร้อนลงไปพร้อมกับ Dual-air ระบบแรงดูดและแรงผลัก เพื่อส่งผ่านตัวยาหรือสารละลายลงไปสู่ชั้นผิวหนังได้ลึกและดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีอีกหลาย Tip ที่ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป เช่น Unique Tiger Tip™ technology ที่มีลักษณะเฉพาะพิเศษ สามารถแก้ปัญหาและรักษาได้หลายชั้นผิวพร้อมกันในขั้นตอนเดียว หรือ Single Insulated needles tip ที่สามารถใช้งานเพื่อรักษาปัญหาสิวได้อย่างตรงจุด เป็นต้น

ผลลัพธ์หลังทำ Potenza

เนื่องจากเครื่อง Potenza กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินเพิ่มขึ้น จึงช่วยในเรื่องของการยกระดับผิวหน้าให้ดูแข็งแรงและมีความกระชับ นอกจากนั้นยังให้ผลลัพธ์ที่ดีในการแก้ปัญหาด้านความงามในหลาย ๆ เรื่องได้เป็นอย่างดี 

  • ยกกระชับความหย่อนคล้อย 
  • ฟื้นฟูผิวหน้า ให้ผิวสัมผัสเนียนนุ่ม
  • ทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย
  • กระชับรูขุมขน
  • แก้ปัญหาหลุมสิว และจุดด่างดำ
  • ลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ 
  • ปรับสภาพผิวให้แลดูกระจ่างใส

บริการหลังการขายจาก AESLA

ในประเทศไทย บริษัท เอสล่า จำกัด หรือ AESLA ผู้จำหน่ายเครื่องมือแพทย์ความงาม เป็นตัวแทนในการนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Cynosure อย่างเป็นทางการ โดยมีการบริการหลังการขายอย่างครบวงจร อีกทั้งยังมีการรับประกันคุณภาพ

 

ในด้านบริการหลังการขายของ AESLA มีการรับประกันคุณภาพอย่างเคร่งครัด ให้ความสำคัญกับการบริการรวมถึงการดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดย AESLA มี Clinical Specialist หรือผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับ Certificates โดยตรง มาช่วยสาธิตวิธีการใช้งานอย่างละเอียดพร้อมอบรมการใช้งานเครื่องให้ก่อนเสมอ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคลินิกที่นำเครื่องไปใช้นั้นมีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานเครื่องได้อย่างถูกต้อง และสามารถเลือกใช้เครื่องมือที่แก้ไขปัญหาให้ผู้มารับบริการได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ AESLA ยังมีทีมช่างมืออาชีพสำหรับเข้าไปซ่อมบำรุงและตรวจสอบการทำงานของเครื่องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เครื่องสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยมีการเตรียมแผนการดูแลบำรุงรักษาอย่างชัดเจน เพื่อให้เครื่องมืออยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดระยะเวลารับประกัน

ที่สำคัญที่สุดคือ AESLA เป็นตัวแทนแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตในการดูแลและให้คำปรึกษาสำหรับการซ่อมบำรุงเครื่องมือแพทย์จากบริษัท Cynosure ด้วยทีมงาน Engineer and technician service ที่มีความสามารถและได้รับ Certificates โดยตรง ผู้ประกอบการจึงสามารถมั่นใจได้ในความเชี่ยวชาญและความใส่ใจรายละเอียดในการดูแลเครื่อง รวมถึงอะไหล่และอุปกรณ์แท้ที่มีคุณภาพสำหรับการใช้งานอีกด้วย

 

ช่องทางการติดต่อ AESLA : www.aesla.com , Email: marketing@aesla.com

Tel:  +662-538-6996, +6692-573-9907 

 
Events & Workshops
AESLA

AESLA AWARDS 2024

“A NIGHT OF STELLAR HONORS – AESLA AWARDS 2024” h

Read More »
ไขข้อข้องใจ เลเซอร์กำจัดขน Diode กับ Yag แบบไหนดีกว่ากัน

การกำจัดขนด้วยเครื่อง Diode Laser มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย

การกำจัดขนด้วยเครื่อง Diode Laser มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย

AESLA เครื่อง Diode Laser กำจัดขน Mediostar Monolith

การกำจัดขนด้วยเทคโนโลยี Diode Laser เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่สูงกว่าวิธีการกำจัดขนแบบดั้งเดิม เครื่องเลเซอร์กำจัดขนประเภทนี้ใช้ความยาวคลื่นที่เหมาะสมในการทำลายรากขน ทำให้สามารถกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดการเกิดขนใหม่ในระยะยาวได้อีกด้วย

ทำไม Diode Laser จึงมีประสิทธิภาพในการกำจัดขน?

การกำจัดขนด้วย Diode Laser ใช้ความยาวคลื่นที่เฉพาะเจาะจงในการจับเม็ดสีเมลานินในเส้นขน โดยทั่วไปจะมีความยาวคลื่นประมาณ 810 นาโนเมตร ซึ่งเป็นความยาวคลื่นที่สามารถเจาะลึกลงไปถึงรากขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องรุ่นใหม่ ๆ ที่ใช้ความยาวคลื่นที่หลากหลายร่วมกัน เช่น เครื่อง Mediostar Monolith ที่ใช้ความยาวคลื่น 810 นาโนเมตร และ 940 นาโนเมตร ทำงานร่วมกันนอกจากช่วยในการกำจัดขนแล้ว ยังทำให้รากขนฝ่อลีบ ทำลายหลอดเลือดที่เป็นแหล่งอาหารหล่อเลี้ยงเส้นขน หยุดการเจริญเติบโตของขน ทำให้วงจรการเกิดขนใหม่มีการชะลอตัวช้าลงมากขึ้นเรื่อย ๆ

ความปลอดภัยของ Diode Laser

เครื่องเลเซอร์ขน (Laser Hair Removal) แบบ Diode Laser ปัจจุบันในตลาดความงามถือว่ามีอยู่หลากหลาย ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่ความปลอดภัยเป็นหลักสำคัญอันดับแรก ๆ ที่ทำให้การกำจัดขนด้วย Diode Laser ถูกพูดถึงมากที่สุด โดยมีเหตุผลสนับสนุนที่น่าสนใจหลายประการ ดังต่อไปนี้

1. ความยาวคลื่นที่เหมาะสม

ความยาวคลื่น 810 นาโนเมตรสามารถจับเม็ดสีเมลานินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องใช้พลังงานสูงมากเกินไป ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดแผลไหม้บนผิวหนัง

2. เทคโนโลยี Cooling

เครื่อง Diode Laser ส่วนใหญ่มาพร้อมกับ Cooling ที่ช่วยทำความเย็นเพื่อปกป้องผิวหนังระหว่างการรักษา ลดความเจ็บปวด และป้องกันการเกิดแผลไหม้

3. ความเหมาะสมกับสีผิวที่หลากหลาย

Diode Laser สามารถใช้ได้กับผู้ที่มีสีผิวแตกต่างกัน รวมถึงผิวที่มีสีเข้มกว่า ทำให้เหมาะสมกับผู้ใช้ที่หลากหลาย

4. การรับรองมาตรฐาน

เครื่อง Diode Laser คุณภาพสูง เช่น Mediostar ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรระดับสากล เช่น U.S.FDA และ Gold Standard ซึ่งเป็นการรับประกันความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

Mediostar Monolith นวัตกรรมล่าสุดในการกำจัดขน

Mediostar Monolith เป็นตัวอย่างของเครื่อง Diode Laser รุ่นใหม่ที่รวมคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ

  • การผสมผสานความยาวคลื่น: ใช้ความยาวคลื่น 810 นาโนเมตร และ 940 นาโนเมตร ทำงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดขน
  • ระบบทำความเย็น Contact Cooling 360°: ให้ความเย็นรอบทิศทาง ช่วยลดความเจ็บปวดและป้องกันการเกิดแผลไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ความเสถียรของพลังงาน: มีความเสถียรในการปล่อยพลังงานสูง ทำให้ผลการรักษามีความสม่ำเสมอ
  • การรับรองมาตรฐาน: ได้รับการรับรองจาก U.S.FDA และ Gold Standard ซึ่งเป็นการรับประกันคุณภาพและความปลอดภัย
  • ความสามารถในการปรับแต่ง: สามารถปรับค่าต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและเส้นขนของแต่ละบุคคลได้

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ Mediostar Monolith จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดขนอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย การกำจัดขนด้วย Diode Laser เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้เครื่องที่มีคุณภาพสูงและได้รับการรับรองมาตรฐาน เช่น Mediostar Monolith การเลือกใช้เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยกำจัดขนในระยะสั้น แต่ยังช่วยลดการเกิดขนใหม่ในระยะยาว ทำให้ผู้ใช้สามารถมีผิวเรียบเนียนได้อย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญและการปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด

Events & Workshops
AESLA

AESLA AWARDS 2024

“A NIGHT OF STELLAR HONORS – AESLA AWARDS 2024” h

Read More »
เข็มฉีดฟิลเลอร์ในรูปแบบของเข็ม cannula

เข็ม Micro-cannula ปฏิวัติวงการฉีดฟิลเลอร์เพื่อความงามที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

เข็มฉีดฟิลเลอร์ Micro-cannula นวัตกรรมใหม่แห่งวงการ Aesthetics

เข็มฉีดฟิลเลอร์ในรูปแบบของเข็ม cannula

ในวงการของศัลยกรรมความงาม การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญได้เกิดขึ้นกับวิธีการฉีดฟิลเลอร์ จากที่เคยใช้เข็มฉีดฟิลเลอร์ปลายแหลมเป็นมาตรฐาน สู่การใช้ Micro-cannula หรือเข็มฉีดฟิลเลอร์ปลายทู่ที่กำลังเป็นทางเลือกยอดนิยมในปัจจุบัน

แต่เดิม กล่องฟิลเลอร์มักมาพร้อมเข็มฉีดยาปลายแหลมเพื่อความสะดวกในการใช้งาน แต่มีความเสี่ยงจากการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและหลอดเลือด รวมถึงโอกาสเกิดรอยฟกช้ำสูง ทำให้วงการแพทย์เริ่มมองหาทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า Micro-cannula จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความปลอดภัย ด้วยปลายทู่ที่ลดโอกาสการแทงทะลุเส้นเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงได้อย่างมีนัยสำคัญ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ส่งผลให้ผู้ผลิตเริ่มบรรจุ Micro-cannula ลงในกล่องฟิลเลอร์มากขึ้น กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการที่มุ่งเน้นทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัยไปพร้อมกัน

การเปรียบเทียบเข็มฉีดฟิลเลอร์ ปลายแหลม VS ปลายทู่ (Micro-cannula)

โครงสร้างและการออกแบบ:

  • เข็มปลายแหลม: มีปลายแหลมคมขนาดเล็กMicro-cannula: มีปลายมน มีความยืดหยุ่นมากกว่า

วิธีการใช้งาน:

  • เข็มปลายแหลม: สามารถแทงผ่านผิวหนังได้โดยตรง
  • Micro-cannula: ต้องใช้เข็มนำ (Pilot needle) เจาะรูเล็กๆ ก่อน แล้วจึงสอด Micro-cannula ผ่านรูนำ

ความแม่นยำ:

  • เข็มปลายแหลม: ให้ความแม่นยำสูงในการฉีดจุดเล็ก ๆMicro-cannula: เหมาะสำหรับการกระจายฟิลเลอร์ในพื้นที่กว้าง 

ความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ:

  • เข็มปลายแหลม: มีโอกาสสูงที่จะทำให้เกิดรอยฟกช้ำ เลือดออก และบวม
  • Micro-cannula: ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บต่อเส้นเลือดและเนื้อเยื่อ

ความเจ็บปวดระหว่างการรักษา:

  • เข็มปลายแหลม: ผู้รับบริการอาจรู้สึกเจ็บมากกว่า
  • Micro-cannula: ลดความเจ็บปวดระหว่างการรักษา ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายกว่า

ระยะเวลาฟื้นตัว:

  • เข็มปลายแหลม: อาจใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าเนื่องจากมีโอกาสเกิดรอยฟกช้ำสูง
  • Micro-cannula: ฟื้นตัวเร็วกว่า มีรอยฟกช้ำน้อยกว่า
ความเสี่ยงต่อการอุดตันของหลอดเลือด:
  • เข็มปลายแหลม: มีความเสี่ยงสูงกว่าในการเกิดการอุดตันของหลอดเลือด
  • Micro-cannula: ลดความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากปลายทู่มีโอกาสน้อยที่จะแทงทะลุหลอดเลือด
ความเป็นธรรมชาติของผลลัพธ์:
  • เข็มปลายแหลม: อาจทำให้เกิดการกระจายตัวของฟิลเลอร์แบบเป็นจุด
  • Micro-cannula: ช่วยให้การกระจายตัวของฟิลเลอร์เป็นธรรมชาติมากขึ้น ลดโอกาสที่ฟิลเลอร์เป็นก้อนทั้งสองวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกัน การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ ลักษณะผิวของผู้รับบริการ และตำแหน่งที่ต้องการฉีด อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในปัจจุบันแพทย์เริ่มหันมาใช้ Micro-cannula มากขึ้นเนื่องจากข้อได้เปรียบด้านความปลอดภัยและการฟื้นตัวที่รวดเร็ว

SoftFil® เข็มฉีดฟิลเลอร์ ที่ปลอดภัย ใช้ง่าย และสะดวกสบายต่อการใช้งาน

เมื่อเข็มฉีดฟิลเลอร์แบบ Microcannula เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น วงการความงามได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ผู้ผลิตเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาและออกแบบเข็มฉีดให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยมุ่งเน้นสามด้านหลัก ดังนี้ ความปลอดภัย ความสะดวกในการใช้งาน และการลดอาการบาดเจ็บของผู้รับบริการ ทำให้แพทย์สามารถเลือกใช้เข็มที่เหมาะสมและเฉพาะเจาะจงกับแต่ละบริเวณที่ต้องการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าง เข็มฉีดฟิลเลอร์ Micro-cannula จากแบรนด์ SoftFil® ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายของแพทย์ในการใช้งานและลดอาการบาดเจ็บของคนไข้ เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคลินิกชั้นนำจากทั่วโลก

ข้อดีของเข็ม SoftFil Precision 

  • มีการออกแบบเส้นวัดระยะทุก ๆ 1 ซม. ที่บริเวณเข็ม เพิ่มความสามารถในการระบุตำแหน่งของปลายเข็มอย่างแม่นยำ เพื่อการฉีดที่แม่นยำยิ่งขึ้น
  • ตัวเข็ม Stainless Steel เคลือบสารหล่อลื่นซิลิโคน  เพิ่มความลื่นในการแทงเข็มภายในผิวหนัง เพื่อลดความเจ็บของคนไข้ 
  • มีฐาน Lure Lock ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อการเชื่อมต่อของเข็ม เพิ่มความปลอดภัย ช่วยให้เข็มแน่นมากขึ้น ไม่หลุดออกจากไซริง 
  • มีเข็มให้เลือกถึง 22 ขนาด เพิ่มตัวเลือกสำหรับการฉีดในทุกบริเวณ 
  • จุด Red Dot เป็นสัญลักษณ์บอกตำแหน่งของรูเข็ม เพิ่มความแม่นยำในการฉีด

SoftFil EasyGuide Micro-cannula ที่มาพร้อม เข็ม Pilot รูปแบบใหม่ล่าสุด

เข็ม Pilot หรือเข็มปลายแหลมขนาดเล็ก มีหน้าที่สร้างรูเล็ก ๆ บนผิวหนังเพื่อเปิดทางให้เข็ม cannula สามารถผ่านเข้าไปได้ แต่ด้วยธรรมชาติของผิวที่มีความยืดหยุ่นสูงทำให้รูที่สร้างขึ้นมาปิดลงทันทีหลังจากการเจาะเปิดทาง แพทย์อาจจะต้องแทงเข็ม cannula ลงบนผิวหลายครั้งเพื่อหารูเข็ม ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและความเจ็บปวดได้ 

SoftFil EasyGuide เป็นเซตเข็ม Micro-cannula ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์นำทางเข็มหรือ เข็ม Pilot รูปทรงตัว V ที่ถูกออกแบบเป็นเอกลักษณ์ มีลักษณะเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของเข็ม ช่วยให้แพทย์สามารถเปิดรูในผิวพร้อมกับสอดเข็ม Micro-cannula ลงไปในผิวได้อย่างสะดวก มั่นคง และแม่นยำ  

Events & Workshops
AESLA

AESLA AWARDS 2024

“A NIGHT OF STELLAR HONORS – AESLA AWARDS 2024” h

Read More »
บอกลาหลุมสิว กับ NanoFractional RF : Venus Viva MD

บอกลาหลุมสิว กับ NanoFractional RF เปลี่ยนผิวคุณให้เรียบเนียน

บอกลาหลุมสิว กับ NanoFractional RF เปลี่ยนผิวคุณให้เรียบเนียน

บอกลาหลุมสิว กับ NanoFractional RF : Venus Viva MD

หลุมสิวเป็นปัญหาที่กวนใจใครหลายคน เพราะทำให้ขาดความมั่นใจ และดูอ่อนเยาว์น้อยลง เทคโนโลยี NanoFractional RF จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การแก้ไขปัญหานี้โดยเฉพาะ โดยอาศัยผลของความร้อนในการทำให้เกิดกระบวนการ Fractionalในชั้นผิวหนัง กระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่เรียบเนียน รูขุมขนที่กระชับ และดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

เครื่องรักษาหลุมสิว NanoFractional RF ทำงานโดยการส่งคลื่นวิทยุความถี่สูงลงไปที่ผิวหนังชั้นใน ทำให้เกิดผลของความร้อน ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวมีความเรียบเนียนขึ้น สามารถลดเลือนรอยแผลเป็นจากสิว และปรับสภาพผิวได้อย่างเห็นผลชัดเจน

NanoFractional RF แตกต่างจาก Fractional RF ทั่วไปอย่างไร?

หากเปรียบเทียบ NanoFractional RF กับ Fractional RF ทั่วไป เครื่องรักษาหลุมสิว NanoFractional RFสามารถรักษาปัญหาผิวได้อย่างแม่นยำและตรงจุด โดยไม่ทำลายผิวบริเวณรอบข้าง นอกจากนี้ยังปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง โดย NanoFractional RF จะทำให้เกิดแผลขนาดเล็กมาก ๆ (Microwounds) เมื่อเทียบ กับ Fractional RF แบบอื่น ๆ นอกจากนั้นแผลที่เกิดจากเทคโนโลยี NanoFractional RF ยังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ส่งผลให้กระบวนการ Healing Process ไวกว่า และมีระยะการพักฟื้น (Downtime) สั้นกว่า แบบอื่น ๆ อีกด้วย

NanoFractional RF ดีกว่าอย่างไร เมือเทียบกับ Fractional RF ทั่วไป?

Fractional RF 

  • ขนาดแผล: พลังงานทำให้เกิดความร้อนในบริเวณผิวหนัง ซึ่งผลลัพธ์เป็นแผลค่อนข้างใหญ่
  • ผลลัพธ์: ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น ริ้วรอย และปรับปรุงผิวได้ในระดับหนึ่ง
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาผิวทั่วไป เช่น รอยแผลเป็น ริ้วรอยเล็กน้อย

NanoFractional RF

  • ขนาดแผล: สามารถส่งพลังงานไปยังจุดที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ แผลค่อนข้างเล็ก ฟื้นตัวไว
  • ผลลัพธ์: ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและเห็นผลได้ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับปัญหาหลุมสิว รอยแผลเป็นที่ลึก และรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาผิวเฉพาะเจาะจง เช่น หลุมสิว รอยแผลเป็นที่ลึก และต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นได้ชัด

ทั้ง Fractional RF และ NanoFractional RF ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงสภาพผิว แต่ NanoFractional RF ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ เห็นผลชัดเจนรวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน แม้กระทั่งผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวหรือรอยแผลเป็นที่ลึก

 

NanoFractional RF ในเครื่องรักษาหลุมสิว Venus Viva MD ใช้รักษาอะไรได้บ้าง?

  • รักษาหลุมสิวได้อย่างครอบคลุม ทั้งชนิดตื้นและลึก 
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง 
  • กระชับรูขุมขน เผยผิวเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น 
  • แก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ 
  • ลดริ้วรอยร่องลึก 
  • รักษารอยแผลเป็น 
  • รักษาอาการ Rosacea 
  • ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย 
  • รักษารอยแตกลาย
Events & Workshops
AESLA

AESLA AWARDS 2024

“A NIGHT OF STELLAR HONORS – AESLA AWARDS 2024” h

Read More »
ทำความสะอาดผิวด้วยเครื่องHydrafacial Facial Treatment

Hydrafacial ฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกด้วยเทคโนโลยี Vortex Fusion

ฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึกกับ Hydrafacial Treatment

ทำความสะอาดผิวด้วยเครื่องHydrafacial Facial Treatment

เครื่อง Hydrafacial เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ผสมผสานการทำความสะอาดใบหน้าและการเติมเต็มสารสกัดเข้มข้นเข้าสู่ผิวไว้ในขั้นตอนเดียว ด้วยหัวดูดน้ำวน Vortex Fusion Technology ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนและขจัดสิ่งสกปรกภายในรูขุมขนออกไปได้อย่างสะอาดหมดจด โดยได้รับการจดสิทธิบัตรเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Hydrafacial รับรองคุณภาพจาก U.S.FDA จึงสามารถมั่นใจได้ว่าเครื่องสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

Hydrafacial ปกป้องผิวจากมลภาวะและ PM2.5

Hydrafacial Syndeo แตกต่างจากเครื่องทรีตเมนต์ทั่วไปด้วยประสิทธิภาพในการเติมสารสกัดเข้มข้นเข้าสู่ผิวไปพร้อม ๆ กับการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนภายในขั้นตอนเดียว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใส กระชับรูขุมขน และช่วยให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น การเติมสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวด้วย Booster เข้มข้น ยังช่วยฟื้นฟูและบำรุงให้ผิวมีความแข็งแรง ดูกระจ่างใส ไม่หมองคล้ำ นอกจากนั้นยังตอบโจทย์สำหรับเทรนด์ความงามในปี 2024 ที่เน้นปกป้องผิวจากผลกระทบของมลภาวะ PM2.5 ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ซึ่งการล้างหน้าปัจจุบันอาจไม่เพียงพอ ทรีตเมนต์ Hydrafacial จึงช่วยถนอมผิวได้มากกว่า และสร้างสมดุลเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพผิวให้ดีขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

ข้อดีของ Vortex Fusion Technology

เทคโนโลยี Vortex Fusion เป็นเอกลักษณ์ของ Hydrafacial ที่มอบประสบการณ์การดูแลผิวอย่างล้ำลึก โดยการทำความสะอาดผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ ผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างครอบคลุม รวมถึงช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังทำทรีตเมนต์หน้า

รูปแบบการทำงานของ Hydrafacial 

  • Lympathic Therapy เริ่มต้นด้วยการเตรียมผิวกับกระบวนการกระตุ้นต่อมน้ำเหลือง ที่ช่วยขจัดของเสียและลดการอักเสบ
  • Deep Cleansing ทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก ด้วยหัว Tip สามารถผลัดเซลล์ผิวชั้นบนที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดไปได้อย่างอ่อนโยนและไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง
  • Extraction ขจัดสิ่งสกปรก ความมัน และฝุ่นละอองที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่อยู่ในรูขุมขน ด้วยแรงดูดที่อ่อนโยนพร้อมเตรียมผิวหน้าสำหรับการฟื้นบำรุงในขั้นต่อไป
  • Hydration เติมสารอาหารวิตามินเข้มขัน บำรุงดูแลทุกสภาพผิวได้อย่างตรงจุดด้วย Booster ชั้นนำหลากหลายสูตร ตอบโจทย์ปัญหาผิวที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคลได้อย่างลงตัว
  • LED Light Therapy การฉายแสงผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วย Red LED Light เน้นกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดการอักเสบ Blue LED Light ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวพร้อมควบคุมความมัน
  • Antiox + ขั้นตอนสุดท้าย การปลอบประโลมผิวคุณด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นกาะป้องกันผิว เกิดความชุ่มชื้นและพื้นฟูผิวหน้าให้แข็งแรง

ประโยชน์ของ Hydrafacial

  • ทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก: ขจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินได้อย่างหมดจด
  • ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน: ช่วยให้ผิวเรียบเนียน สดใส
  • เติมเต็มความชุ่มชื้น: ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ดูอ่อนเยาว์
  • ปรับสภาพผิว: ช่วยแก้ไขปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น สิว รูขุมขนกว้าง
  • ผ่อนคลายผิว: ทำให้ผิวรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย

ความคุ้มค่าในการซื้อเครื่อง Hydrafacial

ถึงแม้ Hydrafacial จะเป็นเครื่องทรีตเมนต์หน้า(Facial treatment)ที่มีจุดเด่นในการทำความสะอาดใบหน้าและเติมเต็มสารสกัดเข้าสู่ผิว แต่การมีเครื่อง Hydrafacial สามารถสร้างรายได้ให้กับคลินิกได้มากกว่าการใช้งานตัวเครื่องเพียงอย่างเดียว ด้วยชื่อแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือระดับโลก การแยกใช้อุปกรณ์ที่มาพร้อมกับตัวเครื่องในการสร้างรายได้ รวมการทำทรีตเมนต์ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ในคลินิกเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการรักษา ทำให้ Hydrafacial เป็นเครื่องทรีตเมนต์หน้า(Facial treatment)ที่มีความคุ้มค่าในการลงทุนสูงมาก

  1. Hydrafacial เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก
    ด้วยชื่อและภาพลักษณ์แบรนด์ที่โดดเด่นทำให้ Hydrafacial ไม่เพียงแต่เป็นแบรนด์ที่น่าจดจำเท่านั้นแต่ยังสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับกลุ่มลูกค้าได้อีกด้วย การเลือกเครื่องทรีตเมนต์หน้า(Facial treatment)ที่กำลังได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักดีอยู่แล้วในตลาดความงามจึงช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในประสิทธิภาพของเครื่องและสามารถตัดสินใจในการทำทรีตเมนต์ได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นการเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกช่วยให้คลินิกมีฐานลูกค้าที่หลากหลาย โดยเฉพาะลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งอาจมีกำลังและศักยภาพในการใช้จ่ายบริการด้านความงามที่สูงกว่าอีกด้วย หลังจากที่ภาพลักษณ์ในประเทศไทยช่วงหลังมีความเป็นศูนย์กลางการให้บริการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์ (Wellness Tourism & Medical Hub) มากขึ้น
  2. เพิ่มมูลค่าให้กับการทำความสะอาดใบหน้า
    การทำความสะอาดใบหน้าเป็นขั้นตอนแรกก่อนการทำหัตถการทุกชนิดและยังเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ช่วยป้องกันการเกิดผลข้างเคียงในการรักษาอีกด้วย โดยคลินิกสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับขั้นตอนนี้ได้ด้วยการใช้เครื่องทรีตเมนต์หน้าแทนการทำความสะอาดใบหน้าแบบทั่วไป โดยสารสกัดเข้มข้นของ Hydrafacial สามารถเข้าไปเสริมประสิทธิภาพของหัตถการให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น พร้อมกับสร้างประสบการณ์ที่ดีและเพิ่มความประทับใจให้กับลูกค้าได้อีกด้วย
  3. พนักงานสามารถให้บริการได้
    หนึ่งในปัจจัยที่เจ้าของคลินิกเสริมความงามต้องคำนึงถึงคือผลประกอบการจากการให้บริการแก่ลูกค้าในแต่ละครั้งเนื่องจากแพทย์สามารถรักษาคนไข้ได้จำนวนจำกัดต่อวัน การมีเครื่อง Hydrafacial จึงมีข้อได้เปรียบ เพราะ “Therapist” ที่ผ่านการอบรมการใช้เครื่องสามารถให้บริการต่อลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่เกิดความเสี่ยงในการรักษา จึงเป็นการช่วยประหยัดเวลาเพื่อให้แพทย์สามารถดูแลลูกค้าที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและความชำนาญมากกว่าได้ คลินิกจึงสามารถให้บริการ Hydrafacial กับลูกค้าได้เยอะขึ้น
  4. ให้ผลลัพธ์ที่เสถียรทุกครั้ง
    การทำหัตถการด้วยเครื่องมือแพทย์ความงามหรือทรีตเมนต์บางชนิดลูกค้าไม่สามารถคาดเดาถึงผลลัพธ์หลังการรักษาได้อย่างชัดเจน รวมถึงไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังรับบริการ ซึ่งมีผลเป็นอย่างมากต่อการตัดสินใจของลูกค้า โดยการทำ Hydrafacial สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้อย่างสม่ำเสมอในทุกครั้ง และลูกค้ายังสามารถเห็นความแตกต่างของผิวที่เรียบเนียน สุขภาพดี และกระจ่างใสขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
  5. เหมาะกับทุกสีผิวและทุกสภาพผิว
    ในบางกรณี คลินิกเสริมความงามอาจต้องปฏิเสธการให้บริการแก่ลูกค้าเนื่องจากเครื่องมือแพทย์ความงามบางชนิดมีข้อจำกัดในเรื่องของสีผิวหรือสภาพผิว ทำให้เสียโอกาสในการให้บริการแก่ลูกค้าไป ซึ่งเครื่อง Hydrafacial เป็นเครื่องทรีตเมนต์หน้าที่สามารถรักษาได้ในทุกสีผิวและทุกสภาพผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแม้ในผิวแพ้ง่าย มีข้อจำกัดในการรักษาน้อย และมีความหลากหลายในการใช้งานสูงขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของคนไข้ ทำให้ Hydrafacial เป็นทรีตเมนต์ที่ลูกค้าทุกคนสามารถรับบริการได้
  6. ลูกค้ากลับมาทำซ้ำและบอกต่อ
    หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ Hydrafacial โดดเด่นและสามารถดึงดูดลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ไว้ได้คือการมอบผลลัพธ์ของผิวที่เรียบเนียน ดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ครั้งแรกหลังการทำทรีตเมนต์ ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจและตัดสินใจกลับมารับบริการซ้ำได้ง่ายขึ้น เมื่อลูกค้ากลับมารับบริการอย่างเป็นประจำทุก ๆ 1 เดือน ผิวหน้าจะเริ่มมีความแข็งแรงมากขึ้น ผลลัพธ์ในการทำทรีตเมนต์อยู่ได้นานขึ้น และช่วยสร้างรายได้ให้กับคลินิกอย่างสม่ำเสมอ

AESLA ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่อง Hydrafacial

“AESLA” หรือ บริษัท เอสล่า จำกัด เป็นบริษัทผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่อง Hydrafacial และเครื่องมือแพทย์ความงามระดับโลกมาตรฐาน Gold Standard ที่ได้ผ่านการรับรองคุณภาพจาก U.S.FDA และ Thai FDA

โดย AESLA มีบริการหลังการขาย พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลอย่างครบวงจร เช่น บริการ Training โดย Certified Clinical Specialist เพื่อให้แพทย์และพนักงานสามารถใช้งานเครื่องมือทางการแพทย์ได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพและปลอดภัย รวมถึงมีบริการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์อยู่เสมอ พร้อมติดตามผลรวดเร็วกายใน 24 ชั่วโมงด้วยทีมงานพิเศษ เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของแพทย์และผู้รับบริการ

Events & Workshops
AESLA

AESLA AWARDS 2024

“A NIGHT OF STELLAR HONORS – AESLA AWARDS 2024” h

Read More »
3 เทคโนโลยีล้ำสมัย ฟื้นฟูผิวให้กลับมามีชีวิตชีวา อ่อนเยาว์

3 เทคโนโลยีล้ำสมัย ฟื้นฟูผิวให้กลับมามีชีวิตชีวา อ่อนเยาว์

3 เทคโนโลยีล้ำสมัย ฟื้นฟูผิวให้กลับมามีชีวิตชีวา อ่อนเยาว์

3 เทคโนโลยีล้ำสมัย ฟื้นฟูผิวให้กลับมามีชีวิตชีวา อ่อนเยาว์

เคยสังเกตไหมว่าทำไมเวลาที่เราโดนแดดเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผิวของเราก็สามารถดูคล้ำขึ้นได้ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า เมื่อผิวโดนแสงแดด รังสี UV จะเข้าไปกระตุ้นกระบวนการปกป้องตัวเองของร่างกายและสร้างเม็ดสีเมลานินขึ้นมาเป็นเกราะป้องกันผิวและช่วยดูดซับรังสี UV ไม่ให้สามารถทะลุผ่านลงไปยังผิวหนังชั้นลึกและเข้าไปทำลายเซลล์ผิวได้ ซึ่งผลของรังสี UV ไม่ได้เพียงแค่ทำให้ผิวคล้ำขึ้นเท่านั้น แต่มีโอกาสก่อให้เกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำ ทั้งยังเข้าไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว สาเหตุของริ้วรอยก่อนวัย รวมถึงอาจเพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ด้วย การสร้างเม็ดสีเมลานินจึงเป็นกระบวนการตามธรรมชาติในการปกป้องตัวเองของร่างกาย แต่อย่างไรก็ตาม การที่ผิวดูหมองคล้ำขึ้นอาจทำให้หลาย ๆ คนขาดความมั่นใจได้ การฟื้นฟูผิวด้วยเครื่องทรีตเมนต์หลังการโดนแดดจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีในการฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูดีขึ้นได้เร็วขึ้นด้วย 3 เทคโนโลยียอดนิยม ที่จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาสวยใสได้อย่างรวดเร็ว

1.บำรุงผิวแห้งเสียให้กลับมาชุ่มชื้นด้วยทรีตเมนต์ Hydrafacial

ความร้อนจากแสงแดดและรังสี UV ส่งผลให้ความชุ่มชื้นและความสามารถในการกักเก็บน้ำภายในผิวลดน้อยลง ผิวอาจรู้สึกแห้ง หยาบกร้าน ไม่เรียบเนียน นอกจากนั้นผิวที่ขาดความชุ่มชื้นยังทำให้รูขุมขนและริ้วรอยดูชัดขึ้น การบำรุงและเติมเต็มความชุ่มชื้นคืนสู่ผิวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งนอกจากการทาครีมบำรุงแล้วก็สามารถใช้เครื่องทรีตเมนต์หน้าในการฟื้นฟูผิวได้ดีกว่าการทาครีมทั่วไป

ครื่อง Hydrafacial เป็นเครื่องทรีตเมนต์หน้าที่ผลักสารสกัดเข้มข้นเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก พร้อมกับช่วยทำความสะอาดและขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้าและรูขุมขนออกไปได้อย่างสะอาดหมดจด เผยผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้น ด้วย Vortex Fusion Technology หัวน้ำวนพิเศษที่สามารถทำความสะอาดและผลักสารสกัดสำคัญเข้าสู่ผิวได้ภายในเวลาเดียวกัน โดย Boosters เข้มข้นของเครื่อง Hydrafacial มีสูตรให้เลือกหลากหลายและตอบโจทย์ปัญหาผิวได้อย่างเฉพาะเจาะจงตามความต้องการของแต่ละบุคคล ทำให้ผิวกลับมาชุ่มชื้น สุขภาพดี  

Boosters ของ Hydrafacial มีอะไรบ้าง? 

1.Britenol: ผิวกระจ่างใส ไร้รอยด่าง

  • ลดเลือนจุดด่างดำ: สารสกัดจากธรรมชาติช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินที่เป็นต้นเหตุของฝ้า กระ จุดด่างดำ ทำให้ผิวสว่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ปกป้องผิวจากแสงแดด: สารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากรังสี UV ช่วยให้ผิวคงความอ่อนเยาว์
  • ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน: ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วเผยผิวใหม่ที่สดใสเปล่งปลั่ง
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวไม่สม่ำเสมอ

2.Restore: ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง อ่อนเยาว์

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน: ช่วยให้ผิวเต่งตึง เรียบเนียน ริ้วรอยดูจางลง
  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว: ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี
  • ลดการอักเสบ: ช่วยลดรอยแดง รอยสิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียน
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก
3.Dermabuilder: ป้องกันและลดเลือนริ้วรอย
  • ลดการหดตัวของกล้ามเนื้อ: ช่วยลดการเกิดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า
  • กระชับรูขุมขน: ทำให้ผิวเรียบเนียน
  • เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว: ทำให้ผิวดูอิ่มฟู สดใส
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ รูขุมขนกว้าง ขาดความกระชับ

2.ปรับผิวหมองคล้ำกลับมาขาวใสด้วย Picosecond Laser

หากต้องการฟื้นฟูผิวที่หมองคล้ำจากแสงแดดอย่างรวดเร็ว การใช้ครีมทั่วไปอาจไม่เพียงพอและใช้เวลานาน การรักษาด้วยเครื่อง Picosecond Laser จึงเหมาะสมกว่า เนื่องจากสามารถช่วยให้ผิวกลับมากระจ่างใสได้เร็วขึ้น และ Picosecond Laser ยังเป็นเครื่องเลเซอร์ฝ้า กระ ทำให้สามารถรักษาปัญหาจุดด่างดำฝังลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการทำงานของเครื่องคือการใช้เลเซอร์ที่มีความเร็วสูงในการกระแทกเม็ดสีให้แตกตัวออกเป็นเม็ดเล็กมาก ๆ และถูกขับออกไปจากร่างกายโดยกระบวนการตามธรรมชาติ 

Picosure เป็น Picosecond Laser เครื่องแรกของโลก และเป็นเครื่องเดียวที่มีความยาวคลื่น 755 nm ซึ่งสามารถถูกดูดซับด้วยเม็ดสีเมลานินได้ดีกว่าคลื่นอื่น ๆ ในท้องตลาด ไม่ทำให้เกิดแผลเลือดออก ไม่ทำให้ผิวบาง และไม่มีระยะเวลาพักฟื้นหลังการรักษา โดยสามารถใช้ Focus Lens Arrays หัวพิเศษในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ใบหน้าแลดูกระจ่างใสพร้อมทั้งกระชับรูขุมขน หลุมสิว และริ้วรอยขึ้นได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

3.ผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ ด้วย Nanofractional RF

การผลัดเซลล์ผิวเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน กระจ่างใสขึ้นโดยการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ (Cell Turnover) เมื่อชั้นผิวเก่าที่มีเซลล์ผิวที่ตายแล้วถูกผลัดออกไป ก็จะถูกทดแทนด้วยเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงและมีสุขภาพดีกว่า ซึ่งการผลัดเซลล์ผิวด้วย Nanofractional RF ทำให้สามารถผลัดเซลล์ผิวออกไปได้อย่างอ่อนโยน พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้ผิวดูเต่งตึง ผิวกระชับ จากรูขุมขนกว้างดูเล็กลงได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับทรีตเมนต์ผิวหน้า

คำถามที่ 1: Hydrafacial เหมาะกับทุกสภาพผิวหรือไม่?

คำตอบ: โดยทั่วไปแล้ว Hydrafacial เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวที่มีปัญหา เช่น สิวอักเสบ รูขุมขุนกว้าง เป็นการทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยนและเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว แต่สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนทำการรักษาเพื่อความปลอดภัย

 

คำถามที่ 2: ต้องทำ Hydrafacial กี่ครั้งจึงจะเห็นผล?

คำตอบ: จำนวนครั้งที่ต้องทำ Hydrafacial เพื่อให้เห็นผลจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาผิวของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแนะนำให้ทำอย่างน้อย 4-6 ครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรทำเป็นประจำทุก 1-2 เดือน เพื่อบำรุงและรักษาผิวให้ดูดีอยู่เสมอ

 

คำถามที่ 3: Picosecond Laser สามารถรักษาฝ้าได้หรือไม่?

คำตอบ: Picosecond Laser สามารถรักษาฝ้าได้เป็นอย่างดี โดยเลเซอร์จะทำลายเม็ดสีเมลานินที่ก่อให้เกิดฝ้า ทำให้ฝ้าดูจางลงและหายไปในที่สุด อย่างไร

Events & Workshops
AESLA

AESLA AWARDS 2024

“A NIGHT OF STELLAR HONORS – AESLA AWARDS 2024” h

Read More »
Picosure นวัตกรรมใหม่ตัวช่วยเรื่องรักษาผิว ลบรอยสัก

Picosure นวัตกรรม Picosecond Laser 755nm ตัวช่วยเรื่องรักษาผิว ลบรอยสัก

Picosure นวัตกรรม Picosecond Laser 755nm ตัวช่วยเรื่องรักษาผิว ลบรอยสัก

Picosure นวัตกรรมใหม่ตัวช่วยเรื่องรักษาผิว ลบรอยสัก

การใช้เลเซอร์ประเภท “Pico” หรือเทคโนโลยี Picosecond Laser เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสีผิวและฟื้นฟูสภาพผิวหน้า ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น เทคโนโลยี Picosecond Laser นั้นถูกพัฒนาขึ้นในช่วงแรกเพื่อใช้ในการลบรอยสักเป็นหลัก และแน่นอนว่ามันสามารถใช้ในการรักษาสีผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย นวัตกรรม Picosecond Laser อย่าง Picosure จึงควรเป็นตัวเลือกแรก ๆ สำหรับการรักษารอยสักและเม็ดสี

คุณสมบัติของเครื่อง Picosure

Picosure เป็นเครื่องลบรอยสักและรักษาเม็ดสี ที่ใช้พลังงานจาก Alexandrite ในการรักษาเม็ดสีด้วยความยาวคลื่นที่ 755 nm. ซึ่งถือเป็นเลเซอร์รักษาเม็ดสีตัวแรกที่เลือกใช้ความยาวคลื่นนี้ โดยเป็นช่วงความยาวคลื่นที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาฝ้า กระ รอยดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และรอยสัก ซึ่งเทคโนโลยี Picosecond Laser 755 nm. เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ผิวหนังระดับโลกว่ามีประสิทธิภาพสูงในการรักษา นอกจากจะได้เป็น “The World’s First 755nm Picosecond Laser” แล้ว Picosure ซึ่งถูกใช้งานเป็นเครื่องลบรอยสัก, เลเซอร์รักษาปัญหาเม็ดสี และนวัตกรรมที่ใช้ในการฟื้นฟูผิวหน้า ยังได้รับการรองรับมาตรฐาน U.S.FDA และ Gold Standard ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล น่าเชื่อถือ การันตีความปลอดภัย

หลักการทำงานของเครื่อง Picosure

Picosure เป็นเทคโนโลยีในกลุ่ม Picosecond Laser ทำให้มีระยะเวลาในการปล่อยพลังงาน (Pulse Duration) อยู่ที่ 10-12  วินาที หรือก็คือ “1 ต่อ ล้านล้านวินาที” เพื่อให้เกิดผลของ Photomechanical Effect กับเม็ดสีหรือรอยสักที่ไม่ต้องการ  หลักการทำงานของ Picosure ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี PressureWave สร้างการสั่นสะเทือนของเม็ดสีให้เกิดการแตกตัว เพื่อสลายเม็ดสีให้เป็นอนุภาคเล็ก ๆ ที่ละเอียดมาก จนร่างกายสามารถกำจัดได้ง่ายโดยกระบวนการซ่อมแซมตามธรรมชาติของร่างกาย 

เพราะอะไร Picosecond Laser 755nm. ถึงพิเศษ?

  • แม่นยำ: เลเซอร์จะทำลายเฉพาะเป้าหมายที่ต้องการ ไม่กระทบต่อบริเวณรอบข้าง
  • รวดเร็ว: ใช้เวลาในการรักษาสั้น
  • ปลอดภัย: เหมาะกับทุกสภาพผิว
  • ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด: ผิวใสขึ้น รอยสักจางลง รูขุมขนกระชับ
  • ฟื้นตัวเร็ว: ไม่ต้องพักฟื้นนาน

Picosecond Laser 755nm. เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยแดงจากสิว
  • ผู้ที่ต้องการลบรอยสัก
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์

จุดเด่นของ Picosure กับการลบรอยสัก

ในส่วนของการใช้งานลบรอยสัก Picosure เป็นนวัตกรรมเลเซอร์เครื่องเดียวในตลาดที่เป็น  Alexandrite Laser และมีความยาวคลื่น 755nm. มีความจำเพาะเจาะจงกับเม็ดสีเมลานินสูง จึงสามารถใช้งานเพื่อให้ผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับการลดเลือนเม็ดสี ใช้ลบรอยสักได้โดยตรง เพราะฉะนั้นนอกจากเม็ดสีที่ฝังลึก เช่น ฝ้า กระ แล้ว ความยาวคลื่น 755 นาโนเมตรของ Picosure ยังตอบโจทย์ในส่วนของรอยสักสีอื่น ๆ อีกด้วย เช่น รอยสักสีดำ, รอยสักสีน้ำเงิน, รอยสักสีม่วง, รอยสักสีฟ้า, รอยสักสีเขียว หรือรอยสักสีน้ำตาล อีกทั้งยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยเลเซอร์ KTP ความยาวคลื่น 532 nm. ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซับ สีแดง สีส้ม และสีเหลือง จึงทำให้สามารถใช้งานในการลบรอยสักสามสีดังกล่าวได้ด้วย เรียกได้ว่าในภาพรวมแล้ว Picosure สามารถใช้งานเป็นเลเซอร์หรือเครื่องลบรอยสักที่สามารถใช้งานในการจัดการปัญหารอยสักทุกสีได้อย่างครอบคลุม  

นอกจากลบรอยสัก เครื่อง Picosure ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

อย่างที่บอกไปว่าจริง ๆ แล้ว Picosure เป็นเทคโนโลยีในกลุ่ม Picosecond Laser ที่แรกเริ่มถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเลเซอร์ในการรักษาเม็ดสี ใช้งานเป็นเครื่องลบรอยสักเป็นหลัก ก่อนที่จะมีการหาค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ที่เหมาะสมเพิ่มเติม และทำให้ปรับใช้กับการรักษาได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำสิว ปานโอตะ ปานโฮริ รอยสัก ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอยและหลุมสิว นอกจากนี้ด้วยความที่ Picosure มีเลนส์ชนิดพิเศษ “Focus Lens Array” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีกรรมสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ Cynosure  ที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดบาดแผล จึงช่วยให้ผิวคนไข้เรียบเนียน ริ้วรอยลดลง ผิวเฟิร์มกระชับขึ้น ขนาดรูขุมขนเล็กลง ทั้งยังช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น ผลลัพธ์ชัดเจน และมีความปลอดภัย

บริการหลังการขายจาก AESLA ตัวแทนจำหน่าย Picosure อย่างเป็นทางการ

AESLA เป็นตัวแทนแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตในการดูแลและให้คำปรึกษาสำหรับการซ่อมบำรุงเครื่องมือแพทย์จากบริษัท CYNOSURE ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่อง PicoSure ด้วยทีมงาน Clinical Specialist และ Engineer and Technician Service ที่มีความสามารถและได้รับ Certificates โดยตรง ผู้ประกอบการจึงสามารถมั่นใจได้ว่าจะมีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานเครื่องได้อย่างถูกต้อง สามารถใช้เครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาให้ผู้มารับบริการได้อย่างตรงจุด นอกจากนั้นยังจะได้รับความใส่ใจรายละเอียดในการดูแลเครื่อง รวมถึงอะไหล่และอุปกรณ์แท้ที่มีคุณภาพสำหรับการใช้งานอีกด้วย

  • ใส่ใจถึงคุณภาพและมาตรฐานเป็นสำคัญ  
  • บริการหลังการขายโดยทีมงานมืออาชีพ  
  • ให้คำปรึกษาและดูแลอย่างครบวงจร  
  • บริการ Training โดย Certified Clinical Specialist  
  • บริการ Marketing Material  
  • บริการ Technical Service ดูแลเครื่องให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ  
  • สิทธิได้รับ Award ประจำปี จากทาง AESLA
Events & Workshops
AESLA

AESLA AWARDS 2024

“A NIGHT OF STELLAR HONORS – AESLA AWARDS 2024” h

Read More »
AESLA ผู้จำหน่ายเครื่องมือแพทย์ความงาม ที่แพทย์เลือกใช้ในปี 2024

AESLA ผู้จำหน่ายเครื่องมือแพทย์ความงาม ที่แพทย์เลือกใช้ในปี 2024

บอกลาฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วย PICOSURE

AESLA ผู้จำหน่ายเครื่องมือแพทย์ความงาม ที่แพทย์เลือกใช้ในปี 2024

“PICOSURE” นวัตกรรม Picosecond Laser จาก Cynosure ที่มีความยาวคลื่น 755 นาโนเมตร ใช้ในการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ปานโอตะ รวมถึงรอยสัก ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอยและรอยแผลเป็นจากสิว ทั้งยังช่วยลดขนาดรูขุมขน โดยไม่ก่อให้เกิดบาดแผล คนไข้ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น เป็นเพียงเครื่องเดียวของโลกในปัจจุบันที่ผ่านมาตรฐานการรับรองจาก U.S.FDA ในเรื่องการรักษาเม็ดสี ฝ้า ปานโอตะ และปานโฮริ ได้อย่างครอบคลุมในตัวเดียว

AESLA ผู้จำหน่ายเครื่องมือแพทย์ความงาม

บริษัท AESLA เป็นผู้จำหน่ายเครื่องมือแพทย์ความงาม ที่เน้นการคัดสรรนวัตกรรมคุณภาพที่ผ่านการรองรับมาตรฐาน U.S.FDA และ Gold Standard มาจากทั่วทุกมุมโลก จึงได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและบุคลาการในวงการความงามของประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบัน AESLA ในนาม บริษัท เอสล่า จำกัด ได้ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ เพื่อจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ความงามจากแบรนด์ Asclepion, ฺBiotec Italia, Capillus, Cynosure, GME, Human Med, Hydrafacial, NoIR, SoftFil, Syris Scientific, VENUS และ Zimmer ทั้งยังตั้งเป้าหมายจะร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคต เพื่อร่วมยกระดับวงการความงามในประเทศไทยและทำให้ตอบโจทย์กับผู้ประกอบการหรือผู้เข้ารับการบริการอยู่เสมอ นอกจากเครื่องมือที่ได้รับความนิยมและถูกพูดถึงเป็นอันดับแรก ๆ จากเทคโนโลยีกลุ่มเดียวกันอย่าง Picosure เทคโนโลยี Picosecond Laser 755nm สำหรับกำจัดเม็ดสีและลบรอยสัก AESLA ยังยกระดับการโฟกัส Product Highlight ใหม่ ๆ อย่าง Hydrafacial Syndeo ในฐานะนวัตกรรม Facial treatment ที่ตอบโจทย์กับเทรนด์ความงามในปี 2024 อีกด้วย 

Picosure นวัตกรรมสำหรับกำจัดเม็ดสีและลบรอยสัก

Picosure นวัตกรรมสำหรับกำจัดเม็ดสีและลบรอยสัก เป็นที่รู้จักในฐานะ “The World’s 1st 755nm Picosecond Laser” ความยาวคลื่น 755 นาโนเมตร เป็นช่วงความยาวที่ส่งพลังงานอย่างจำเพาะเจาะจงต่อการกำจัดเม็ดสีมากที่สุด สามารถดูดซึมเม็ดสีเมลานินได้สูงกว่าความยาวคลื่นช่วง 1064 นาโนเมตร ถึง 3 เท่า นอกจากนั้นยังกำจัดเม็ดสีได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง หรือก่อให้เกิดจุดเลือดออกที่บริเวณใบหน้า จึงกลายเป็นความยาวคลื่นที่เหมาะสมที่สุดในการรักษารอยโรคเกี่ยวกับเม็ดสีต่าง ๆ รวมถึงใช้ในการฟื้นฟูผิวได้ดี จนทำให้แพทย์ชั้นนำหลายคนเชื่อมั่นในประสิทธิภาพ  

 

อีกหนึ่งความเข้าใจผิด ๆ ที่เกิดขึ้นในเทรนด์ความงามของประเทศไทย รวมถึงในโลกออนไลน์ปัจจุบัน คือความเข้าใจที่ว่า ยิง Picosecond Laser แล้ว เกิดผลลัพธ์ทันทีหลังทำคือหน้าต้องมีเลือดสาด (Bleeding) เกิดขึ้นก่อน ผลลัพธ์ที่ดีถึงจะค่อยเห็นผลทีหลัง ซึ่งถือเป็นความเข้าใจผิด ๆ เพราะความเป็นจริงแล้ว การที่ยิง Picosecond Laser ให้เกิดเลือดออกบริเวณใบหน้า ไม่ได้มีความจำเป็น แต่ด้วยความที่ความยาวคลื่นอื่น ๆ ไม่สามารถกำจัดเม็ดสีได้อย่างเฉพาะเจาะจงเท่า Picosecond Laser 755nm จึงจำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานที่สูงมากขึ้นในการรักษา เลยก่อให้เกิดผลกระทบกับเม็ดเลือดแดง ยิงแล้วอาจโดนเส้นเลือดแตกด้วย แต่ความยาวคลื่น 755 นาโนเมตร ของ Picosure เป็นความยาวคลื่นที่มีความจำเพาะเจาะจงกับเม็ดสีสูง มีความสามารถในการจับเม็ดสีมากกว่าเม็ดPicosure นวัตกรรมสำหรับกำจัดเม็ดสีและลบรอยสัก เป็นที่รู้จักในฐานะ “The World’s 1st 755nm Picosecond Laser” ความยาวคลื่น 755 นาโนเมตร เป็นช่วงความยาวที่ส่งพลังงานอย่างจำเพาะเจาะจงต่อการกำจัดเม็ดสีมากที่สุด สามารถดูดซึมเม็ดสีเมลานินได้สูงกว่าความยาวคลื่นช่วง 1064 นาโนเมตร ถึง 3 เท่า นอกจากนั้นยังกำจัดเม็ดสีได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง หรือก่อให้เกิดจุดเลือดออกที่บริเวณใบหน้า จึงกลายเป็นความยาวคลื่นที่เหมาะสมที่สุดในการรักษารอยโรคเกี่ยวกับเม็ดสีต่าง ๆ รวมถึงใช้ในการฟื้นฟูผิวได้ดี จนทำให้แพทย์ชั้นนำหลายคนเชื่อมั่นในประสิทธิภาพ  

 

อีกหนึ่งความเข้าใจผิด ๆ ที่เกิดขึ้นในเทรนด์ความงามของประเทศไทย รวมถึงในโลกออนไลน์ปัจจุบัน คือความเข้าใจที่ว่า ยิง Picosecond Laser แล้ว เกิดผลลัพธ์ทันทีหลังทำคือหน้าต้องมีเลือดสาด (Bleeding) เกิดขึ้นก่อน ผลลัพธ์ที่ดีถึงจะค่อยเห็นผลทีหลัง ซึ่งถือเป็นความเข้าใจผิด ๆ เพราะความเป็นจริงแล้ว การที่ยิง Picosecond Laser ให้เกิดเลือดออกบริเวณใบหน้า ไม่ได้มีความจำเป็น แต่ด้วยความที่ความยาวคลื่นอื่น ๆ ไม่สามารถกำจัดเม็ดสีได้อย่างเฉพาะเจาะจงเท่า Picosecond Laser 755nm จึงจำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานที่สูงมากขึ้นในการรักษา เลยก่อให้เกิดผลกระทบกับเม็ดเลือดแดง ยิงแล้วอาจโดนเส้นเลือดแตกด้วย แต่ความยาวคลื่น 755 นาโนเมตร ของ Picosure เป็นความยาวคลื่นที่มีความจำเพาะเจาะจงกับเม็ดสีสูง มีความสามารถในการจับเม็ดสีมากกว่าเม็ดเลือดแดงถึง 50 เท่า โอกาสในการเกิดผลกระทบกับฮีโมโกลบิน หรือว่าเม็ดเลือดแดงจึงน้อยมาก เพราะฉะนั้นหลังจากยิง Picosure แล้ว แทบจะไม่มีโอกาสเกิดจุดเลือดออกบนใบหน้าเลย   

 

“สมัยก่อน Picosecond Laser ตัวอื่น ๆ พลังงานไม่ได้เฉพาะเจาะจงเท่ากับ Picosecond Laser 755nm เพราะฉะนั้นบางทีเลยต้องใช้พลังงานสูงกว่า เพื่อจะทําลายเซลล์เม็ดสีในบางเคส ผลก็คือพลังงานสูงส่งผลให้มีเลือดออกหลังทําด้วย ซึ่งมันเป็นอันตราย เป็นความเข้าใจผิดอย่างมหาศาลที่ว่ายิง Picosecond Laser แล้วเลือดออกเป็นสิ่งที่ดี มันอันตรายทั้งในเรื่องการอักเสบที่มากขึ้น หรืออาจเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมาด้วย ทั้งสีน้ำตาลจากเซลล์เม็ดสีที่อาจตกค้างนานอยู่หลายเดือน รวมถึงเรื่องเชื้อโรคต่าง ๆ หรือไวรัสที่อาจแพร่กระจายผ่านเลือดได้อีก เพราะฉะนั้นถ้าเกิดรู้ความจริงแล้ว ก็จะรู้ว่าไม่จําเป็นต้องทำให้เลือดออก มีแต่อันตรายและความเสี่ยงทั้งนั้น จะทำลายเม็ดสี ก็ควรมองหาตัวเลือกที่เฉพาะเจาะจงกับเม็ดสีถึงจะดี” – ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์นิวัติ พลนิกร 

 

“จริง ๆ แล้ว เลเซอร์เนี่ยเราพัฒนามาเรื่อย ๆ เพื่อลด Downtime เราพัฒนาเพื่อให้ยิงเลเซอร์แต่ละครั้ง แล้วกลับไปทำงานได้เลยไม่ต้องพักหน้า แต่ตอนนี้เหมือนกับว่า เป็นเทรนด์ไปแล้ว ยิงเลเซอร์ต้องหน้าแดง เลือดออกก่อน แล้วหลังจากนั้นถึงจะค่อยกลับมาดี ซึ่งผมไม่เห็นพอยต์ตรงนี้ นี่คือเหตุผลที่ทำให้ผมใช้เครื่อง Picosure เพราะว่าความเฉพาะเจาะจงต่อเม็ดสีของตัว Picosure เนี่ย มันจะทำให้ไม่ค่อยโดนเส้นเลือดนะครับ ยิงให้แรงยังไงเนี่ย ไม่มีทางหน้าแดงเลือดออกแน่นอน” – นายแพทย์ ชนุดม เจนครองธรรม (Dr.OH Clinic) 

Hydrafacial Syndeo นวัตกรรม Facial treatment ใหม่

Hydrafacial Syndeo นวัตกรรมใหม่แห่งการทำความสะอาดและบำรุงผิวอย่างล้ำลึก แตกต่างจากเครื่องทรีตเมนต์ทั่วไปด้วยประสิทธิภาพในการเติมสารสกัดเข้มข้นเข้าสู่ผิวไปพร้อม ๆ กับการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนภายในขั้นตอนเดียว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ด้วยหัวเทคโนโลยีน้ำวน “Vortex Fusion Technology” ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Hydrafacial ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใส กระชับรูขุมขน และช่วยให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ส่วนการเติมสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวด้วย Booster เข้มข้น ยังช่วยฟื้นฟูและบำรุงให้ผิวมีความแข็งแรง ดูกระจ่างใส ไม่หมองคล้ำ นอกจากนั้นยังตอบโจทย์สำหรับเทรนด์ความงามในปี 2024 ที่เน้นปกป้องผิวจากผลกระทบของมลภาวะ PM2.5 ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ซึ่งการล้างหน้าปัจจุบันอาจไม่เพียงพอ ทรีตเมนต์ Hydrafacial จึงช่วยถนอมผิวได้มากกว่า และสร้างสมดุลเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพผิวให้ดีขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ   

 

“การล้างหน้าในปัจจุบันไม่เพียงพอ 100% แน่นอนครับ เพราะว่าตอนนี้มีมลภาวะต่าง ๆ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 ที่สามารถซึมซับเข้าไปในชั้นผิวได้ ซึ่งเราควรทำความสะอาดผิวแบบ Deep Cleansing ที่ไม่ใช่เพียงการผลัดเซลล์ผิว แต่ต้องถนอมผิวของเราได้ด้วย และต้องมีสารบำรุงผิวทำให้เกิดความสมดุลเพื่อให้แบคทีเรียที่ดีเกิดขึ้นบนใบหน้า ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ซึ่ง Hydrafacial ก็เป็นหนึ่งในเครื่อง Facial Treatment ที่สามารถทำได้”  – นพ.วชิระ คุณาธาทร (Dr. Fruit Clinic)     

 

“สำหรับเทรนด์ความงามในปี 2024 ที่กำลังมาก็คือ ผิวที่มีสุขภาพดี สดใส และการทำ Hydrafacial สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ โดยเฉพาะเรื่องของมลภาวะปัจจุบันที่ผู้คนกำลังเผชิญฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯ ที่นับวันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตัว Hydrafacial นั้นมีบทบาทเป็น Facial treatment ที่ทำความสะอาดและบำรุงผิวของเราให้มีลักษณะที่สดใสและดูดีขึ้น”  – นพ.กัมพล โซ่เจริญธรรม (KTC Clinic)     

ปัญหายอดฮิตที่เหล่าแพทย์หรือเจ้าของคลินิกเสริมความงามเจอ

เมื่อเลือกซื้อเครื่องมือแพทย์ความงามที่มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพมาตรฐานที่น่าเชื่อถือ รวมถึงตอบโจทย์กับเทรนด์ความงามได้เป็นอย่างดีแล้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบที่แพทย์หรือคลินิกต้องใช้พิจารณา คือในเรื่องของบริการหลังการขายในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องมือแพทย์ความงาม ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาที่เหล่าแพทย์หรือคลินิกต้องเจอบ่อย ๆ ซึ่งนอกจากเครื่องมือแพทย์ความงามจาก AESLA จะมีการรับประกันในอายุการใช้งานแล้ว ยังมีทีมงานพิเศษที่จะช่วยแก้ไขปัญหาและติดตามผลในกรณีที่อุปกรณ์เกิดการชำรุดเสียหาย โดยทีมวิศวกรมืออาชีพจะเข้าไปซ่อมบำรุงรักษาเครื่องมือแพทย์ความงามและตรวจสอบการทำงานของเครื่องทุก ๆ 3 เดือน เพื่อให้ทางคลินิกหรือโรงพยาบาลสามารถมั่นใจได้ว่าเครื่องสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัยโดยไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะทำงานผิดพลาดหรือชำรุดเสียหายอีกด้วย 

ทำไมถึงควรซื้อเครื่องมือจาก AESLA

Events & Workshops
AESLA

AESLA AWARDS 2024

“A NIGHT OF STELLAR HONORS – AESLA AWARDS 2024” h

Read More »
Aesla's policy

โฆษณาต่อผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขเท่านั้น

(Advertise to Healthcare professional and Health Official)

กรุณากดยืนยันก่อนเข้าชมเนื้อหา
(Please confirm before proceeding to view the content)